ผ้าซิ่น เป็นผ้านุ่งสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ในแต่ละท้องถิ่นจะมีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งขนาด วิธีการนุ่ง การทอและการออกแบบลวดลายบนผืนผ้า ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมการทอผ้าในท้องถิ่นและขนาดของกี่ทอผ้า การทอผ้าเพื่อทำผ้าซิ่นเป็นงานหัตถกรรมในครัวเรือนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้หญิงมีหน้าที่สืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าจากคนรุ่นก่อน การทอผ้าซิ่นสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปมักจะเรียบง่ายอาจมีลวดลายบ้างเล็กน้อย สมัยก่อนมักจะทอจากฝ้ายที่ปั่นเส้นด้ายเองเป็นหลัก ปัจจุบันมีการใช้เส้นด้ายสำเร็จรูปมากขึ้น ส่วนผ้าซิ่นที่ใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานบวช งานบุญประเพณีต่างๆ จะทอด้วยความประณีตมีลวดลายวิจิตรบรรจงเน้นความสวยงาม การทอผ้าสำหรับโอกาสพิเศษนี้ใช้เวลานับเดือนจึงจะสำเร็จเป็นผืนผ้า นับเป็นการแสดงฝีไม้ลายมือของผู้ทอเมื่อนุ่งซิ่นที่ทอเองด้วยอีกทางหนึ่ง ผ้าซิ่นโดยส่วนใหญ่ประกอบด้วย หัวซิ่น ตัวซิ่น และตีนซิ่น หัวซิ่นจะอยู่ส่วนบนสุดไม่นิยมทอลาย บางท้องถิ่นใช้ผ้าขาวเย็บติดเป็นหัวซิ่น ตัวซิ่นจะเป็นส่วนที่กว้างที่สุด มีลวดลายบางเล็กน้อยแต่มักใช้ลวดลายกลมกลืนไม่โดดเด่นนิยมใช้สีเดียวตลอดตัวซิ่น ส่วนตีนซิ่นหลายท้องถิ่นทั่วไปเน้นการทอลวดลายและสีสันสวยงามสะดุดตา ความกว้างของตีนซิ่นก็แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม ทางภาคอีสานนิยมทอตีนซิ่นค่อนข้างแคบ ผ้าซิ่นมักจะเรียกชื่อตามลวดลาย วิธีการทำ หรือตามท้องถิ่น เช่น ผ้าซิ่นมัดหมี่ ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่นลายแตงโม ผ้าซิ่นเชียงแสน ผ้าโฮลเสร็ย ผ้าซิ่นทิวมุก เป็นต้น ปัจจุบันผ้าซิ่นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีผู้สนใจศึกษาอย่างกว้างกวาง และยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ