อยู่ที่ผนังหุ้มกลองด้านในอุโบสถ เขียนบนผนังปูนฉาบ ใช้สีฝุ่นผสมน้ำกาว มีสีแดง ดำ เหลือง ขาว เขียนทับลงไปบนสีขาวรองพื้นที่ลงไว้ค่อนข้างจางมาก ภาพใช้สีแก่สด และใช้สีเทาหรือดำตัดเส้นด้วยเส้นที่ใหญ่ ภาพลายผ้า ก้อนหิน ใบไม้ ทิวทัศน์ ระบายสีแบบง่ายๆ ไม่ละเอียดลออ หรือพิถีพิถันในการลงสีอ่อนแก่ วางภาพแบบเรียบง่าย ทำให้ดูแปลกตา ทำให้เกิดความรู้สึกน่าสนใจในท่าทางและลีลาของภาพต่าง ๆ รวมๆความคือผสมผสานเรื่องราวต่างๆได้กลมกลืน โดยที่ผู้เขียนกำหนดความมุ่งหมายขึ้นเองตามชอบใจ ไม่เคร่งครัดในรูปแบบ ภาพหลักในแนวดิ่งตรงกลางผนังพระอุโบสถลงมาร 4 ภาพ คือภาพราหู พระพุทธเจ้า นางธรณีบีบมวยผม และภาพราหูอีกภาพหนึ่ง อีก 2 ด้านทางซ้าย-ขวา เป็นภาพเทพชุมนุมเหาะอยู่ 2 แถว กับมีภาพเมขลาล่อแก้วอยู่ด้านล่างข้างซ้ายด้วย ส่วนกลุ่มมารผจญ เขียนไว้ 2 ข้าง มีน้ำหนักเสมอกันต่อกันลงมาระหว่างช่องประตูเขียนเป็นภาพพระมาลัย และพระเนมิราชลงไปเยี่ยมเมืองนรก ภาพจิตรกรรมในอุโบสถวัดโรงเข้นี้ ปัจจจุบันนี้ออกจะลบเลือนอยู่มาก สันนิฐานว่าเกิดจากฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำท้วมพระอุโบสถ อาจมีส่วนทำให้ภาพเสียหายไปบ้าง ภาพจิตรกรรมที่นี่มีสิ่งน่าสังเกตอยู่บ้างเช่น เหนือซุ้มเรือนแก้วที่พระพุทธเจ้านั่งประทับมีภาพราหูเพิ่มขึ้น และใต้ภาพนางธรณีมีผู้หญิงนั่งพนมมือจะเป็นปริศนาธรรมแฝงอะไรไว้บ้างกระมัง