ประเพณีแห่เทียนพรรษามีต้นกำเนิดจากความเชื่อในเรื่องการถวายเทียนพรรษาให้แก่วัด ซึ่งเป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบๆ มาเป็นเวลาช้านาน เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุทั้งปวงต้องจำพรรษาในวัดเป็นเวลา 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้น เมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ต่อมาจึงเริ่มมีการประกวดด้านการตกแต่งและประดับต้นเทียนกันของชุมชนต่าง ๆ จึงทำให้เกิดเป็นประเพณีแห่เทียนพรรษาขึ้น
ชาวอุบลราชธานี ได้ทำต้นเทียนประกวดประชันความวิจิตรบรรจงกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2470 จนเมื่อปี พ.ศ.2520 จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษา ให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมโหฬาร สถานที่จัดงานคือ บริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข มีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก โดยขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ พร้อมนางฟ้าประจำต้นเทียน จะเคลื่อนขบวนจาก หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ไปตามถนน มาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง และการแสดงสมโภชต้นเทียน แลเป็นแสงไฟต้องลำเทียนงามอร่ามไปทั้งงาน
งานประเพณีแห่เทียนพรรษา มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาไว้ซึ่งขนมธรรมเนียมประเพณีทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ชุมชนคนบ้านเทียนในจังหวัดไว้ เพื่อให้มีการสืบต่อความรู้และทักษะในการตกแต่งเทียนพรรษา
ในช่วงก่อนวันเข้าพรรษา ชาวชุมชนคนบ้านเทียนต่าง ๆ เช่น ชุมชนวัดทุ่งศรีเมือง ชุมชนวัดศรีอุบลรัตนาราม เป็นต้น จะมารวมตัวกันเพื่อประดิษฐ์ลวดลายสำหรับประดับต้นเทียนพรรษา เมื่อถึงวันงานก็จะมีการเคลื่อนย้ายต้นเทียนไปสู่ทุ่งศรีเมือง โดยมีคณะกลองยาวนำขบวนไป
การถ่ายทอดเกิดขึ้นขณะที่คนในชุมชนมารวมตัวกันเพื่อทำเทียน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่จะมาเรียนรู้และฝึกร่วมกัน งานประเพณีแห่เทียนของจังหวัดอุบลราชธานีเป็นงานใหญ่ประจำปีงานหนึ่ง ซึ่งถือได้ว่าดังไปทั่วโลก คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจและรู้สึกภาคภูมิใจกับงานประเพณีนี้ ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้เกิดความเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี