ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 14° 21' 45.941"
14.3627614
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 40' 17.5314"
100.6715365
เลขที่ : 110686
ประวัติวัดขุนทราย
เสนอโดย sujittra วันที่ 29 สิงหาคม 2554
อนุมัติโดย พระนครศรีอยุธยา วันที่ 1 ธันวาคม 2554
จังหวัด : พระนครศรีอยุธยา
0 1834
รายละเอียด

วัดขุนทราย เดิมชื่อ "วัดศีศะทราย" ตั้งอยู่เลขที่ ๒๖ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.๒๒๐๐ ถูกทิ้งร้างคราวเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๑๐ ตต่อมาได้มี จีนปอม มาดูแลรักษา ชาวบ้านเรียกว่า วัดจีนบูรณะศีศะทราย ครั้น ร.ศ.๑๒๕ (พ.ศ.๒๔๕๐) หลวงรามพิชัย (ต้นตระกูล สุดบรรทัด) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดศ๊ศะทรายรามพิชัยบำรุง และได้เปลี่ยนเป็น วัดขุนทราย จนถึงปัจจุบัน วัดขุนทราย เป็นวัดที่มีความสำคญทางประวัติศาสตร์ ทิศเหนือเป็นทุ่งประวัติศาสตร์ เรียกว่า ทุ่งชายเคือง เป็นท้องนากว้างใหญ่ เป็นสถานที่พระเจ้าตาก(สิน)ขณะทรงพระยศเป็นพระยาวชิรปราการ ได้รบกับพม่าตีฝ่าวงล้อมพม่าออกจากรุงศรีอยุธยา เพื่อหาที่มั่นใหม่แล้วค่อยกลับมากอบกู้อิสรภาพภายหลัง นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาหาความรู้ของนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ปัจจุบัน พระครูอุทัยคณารักษ์เป็นเจ้าอาวาสวัดขุนทราย สามารถสอบถามรายละเอียดประวัติความเป็นมาได้เป็นอย่างดี

หมวดหมู่
ศาสนสถาน
สถานที่ตั้ง
วัดขุนทราย
ตำบล อุทัย อำเภอ อุทัย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
เอกสารสภาองค์กรชุมชน
บุคคลอ้างอิง นางสุจิตรา คงมงคล อีเมล์ sk.sabuydee@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ถนน เอเซีย
ตำบล คลองสวนพลู อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ ๐๓๕-๓๓๖๘๘๒-๓ โทรสาร ๐๓๕-๓๓๖๘๘๑
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
แอ๊บแบ๊ว 29 สิงหาคม 2554 เวลา 22:44
เห็นสมควรจัดทำเป็นเอกสารศึกษาประวัติศาสตร์ของอำเภออุทัย
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่