ชื่อแหล่งอุทยานประวัติศาสตร์ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
อายุ เมืองศรีสัชนาลัยมีพบหลักฐานของชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายเมื่อครั้งที่ผู้คนในบริเวณนี้ยังมิได้นับถือพุทธศาสนา เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 9 มาจนถึงสมัยทวารวดีในพุทธศตวรรษที่ 12-16 และสมัยลพบุรี ในพุทธศตวรรษที่ 17-18 อย่างต่อเนื่องมาจนถึงสมัยสุโขทัยในพุทธศตวรรษที่ 19
ที่อยู่/แหล่งที่ตั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อยู่ในเขตอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย กรมศิลปากรตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย ที่มีโบราณสถานและแหล่งโบราณคดีที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และเป็นต้นแบบของศิลปะรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน จึงเข้ามาดำเนินการอนุรักษ์โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เมืองศรีสัชนาลัย เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ ต่มาจึงได้บูรณะและพัมนาในรูปแบบของอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ผู้สนใจทั่วไป สมเด็จพระเทพราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอุทธยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2533
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและกำแพงเพชร ได้รับการยกย่องและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534
สถานภาพของสถานที่ (เช่น อำเภอหรือแม่น้ำ)
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ห่างจากตัวอำเภอศรีสัชนาลัยลงมาทางอำเภอสวรรคโลก 11 กิโลเมตร หรือห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 550 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในเขตของตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ ตำบลท่าชัย ส่วนตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัยอยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 45.14 ตารางกิโลเมตร ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์มีโบราณสถานทั้งหมด 281 แห่ง
ความสำคัญในอดีต
ศรีสัชนาลัยเป็นเมืองสำคัญแห่งหนึ่งในแคว้นสุโขทัย ที่มักจะปรกฏชื่อควบคู่ไปกับเมืองหลวงในจารึก “ศรีสัชนาลัยสุโขทัย” โดยปัจจัยหลักแห่งความรุ่งเรืองของเมืองศรีสัชนาลัย น่าจะมาจากอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสังคโลกในสมัยสุโขทัยและอยุธยาส่งขายไปยังเมืองต่างๆ อันสร้างรายได้ให้แก่เมืองเป็นจำนวนมากและจากความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจนี้เองที่ทำให้เมืองศรีสัชนาลัยได้รับการปกครองจากเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงในสมัยสุโขทัยก่อนที่จะถูกยึดครองโดยรัฐต่างๆ ที่เข้มแข็งกว่าในเวลาต่อมา เช่น ล้านนาเรียกเมืองนี้ว่า “เชียงชื่น” กรุงศรอยุธยาเรียกว่า “สวรรคโลก” แต่หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ. 2112 อุตสาหกรรมการผลิตสังคโลกที่เมืองศรีสัชนาลัยก็ยุติลง ส่งผลให้เมืองศรีสัชนาลัยถูกลดฐานะลงเป็นเพียงหัวเมืองชั้นโท จนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 เมืองศรีสัชนาลัยจึงถูกทิ้งร้างไปโดยสิ้นเชิง โดยผู้คนได้อพยพไปตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณบ้านวังไม้ขอม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน
สภาพทางภูมิศาสตร์ (ที่ราบหรือที่ดอน)
เมืองศรีสัชนาลัย อยู่บนพื้นที่ราบแม่น้ำยม มีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่านเมืองคือแม่น้ำยม และที่ลาดเชิงเขาพระศรี เขาใหญ่ เขาสุวรรณคีรี และเขาพนมเป็นที่เหมาะสมแก่การตั้งถิ่นฐาน
สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
เป็นเมืองกลางศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจเ ดิมชื่อว่า “เมืองเชลียง” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีสัชนาลัย” ในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วงขึ้นครองกรุงสุโขทัย และได้สร้างเมืองขึ้นใหม่เป็นศูนย์กลางการปกครองแทนเมืองเชลียง
ลักษณะเด่นทางวัฒนธรรม (ใช้วัสดุอะไรในการก่อสร้าง) ศิลปะสมัยสุโขทัย
สถานที่สำคัญ
ภายในอุทยานฯ มีสถานที่โบราณที่สำคัญและควรเที่ยวชม อาทิ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดพระศรีมหาธาตุเชลียง กลุ่มเตาสังคโลก เตาทุเรียงบ้านป่ายาง บ้านกาะน้อย และแหล่งโบราณคดีวัดชมชื่นเป็นต้น