ฟ้อนกลองตุ้ม
การฟ้อนกลองตุ้ม เป็นการฟ้อนรำเพื่อประกอบประเพณีบุญบั้งไฟ ของชาวบ้านหนองแก้ว ตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นการฟ้อนเพื่อบูชา เทพเจ้า คือพญาแถน ซึ่งถึงว่าเป็นเทพเจ้าผู้ควบคุมการทำให้ฝนตก โดยมีการจัดงานบุญบั้งไฟและพิธีร่ายรำบูชา พญาแถน ให้พึงพอใจ จึงจะดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
การฟ้อนกลองตุ้ม เป็นที่นิยมมากในบ้านหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบกด้วย กลองตุ้ม และพางฮาด
ท่าฟ้อนรำของกลองตุ้ม เป็นท่ารำอิสระ เรียบง่าย เป็นการเคลื่อนไหวของแขน ซึ่งสัมพันธ์กับการย่างก้าวให้เข้าจังหวัดโดยไม่มีการขับร้อง
การฟ้อนกลองตุ้ม ถือเป็นวัฒนธรรมการละเล่นของท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณะของตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีการสืบสานมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เครื่องแต่งกาย
การแต่งกายนิยมใช้ผ้าทอพื้นเมือง ที่มีลวดลาย และสีสันสวยงานโดดเด่น เป็นเฉพาะเครื่องแต่งกายประกอบด้วยผ้าแต่ง ๓ ประเภท คือ
ผ้านุ่งนิยมใช้ผ้าโสร่งเสื้อใช้เสื้อคอกลม แขนสั้น สีขาวผ้าแต่งประกอบด้วยผ้า ๔ ผืน นิยมใช้แพรขิด (ผ้าไหม)ที่ชาวบ้านในสมัยก่อนจะใช้ไม้เก็บขิดให้เกิดลายสลับสี โทนสีเดียวกับผ้าโสร่ง
ผืนที่ ๑ใช้มัดพันรอบศรีษะ ขมวดปมปล่อยชายยาวลาดหูจรดหน้าผาก
ผืนที่ ๒ - ๓ใช้แต่งลำตัว เรียกว่าแพรเบี่ยง หรือ สไบ
ผืนที่ ๔ใช้คาดเอวทับแพรเบี่ยง
เครื่องดนตรี
กลองตุ้ม
เป็นกลองสองหน้าเหมือนกลองเพล นิยมทำมาจากไม้ประดู่ เจาะตรงกลาง หัวท้ายปิดด้วยหนังวัวขึงให้ตึง เวลาตี เสียงดัง“ตุ้ม ตุ้ม ต้ม”
พวงฮาด
มีลักษณะเหมือนฆ้อง แต่พางฮาดจะไม่มีจูมตรงกลาง หล่อด้วยทองเหลืองผสมทองแดง
เครื่องประดับ
ตุ้มเป - ตุ้มกลมเป็นสายสะพาย 2 เส้น ไขว้ทับกันตามแนวผ้าเบี่ยง เดิมใช้เครื่องเงินแท้
แต่ปัจจุบันใช้ใบตาลอ่อนมาสานเลียนแบบ
กำไลแขน–กำไลขาชาวบ้านเรียกว่า “คล้องแขน –คล้องขา” ทำมาจากเงินฮาง ซึ่งหาได้ยาก ปัจจุบันจึงใช้วัสดุอื่นมาทำแทน
หิ่งห้อเป็นสายประดับเอว ทำด้วย ทองเหลืองปัจจุบันไม่ค่อยมีใส่ จึงใช้วัสดุอื่นมาทำแทน
ซวยมือทำจากหวายหรือไม้ไผ่ พันด้วยฝ้ายหรือด้ายหลากสี ปลายก้านติดด้วยฝ้ายหรือสำลี