หมากนัด หรือบักนัด เป็นภาษาถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หมายถึง สับปะรด เค็มหมากนัด หรือเค็มบักนัด เป็นอาหารพื้นเมืองชนิดหนึ่งที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวิธีถนอมอาหาร โดยการหมักเนื้อปลากับสับปะรดและเกลือ โดยใช้ปลาไร้เกล็ดจำพวกปลาสวายหรือปลาเทโพ มีกรรมวิธีในการทำคือ แล่เนื้อปลาให้ติดหนังหั่นเป็นชิ้นบางๆ นำมาคลุกกับเกลือในอัตราส่วน เนื้อปลา 5 ส่วนต่อเกลือ 1 ส่วนโดยคลุกเคล้าให้เกลือซึมเข้าไปในเนื้อปลาจนได้ที่ สังเกตเนื้อปลาจะแข็ง ใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท และหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน จากนั้นนำปลาหมักที่ได้มาผสมกับสับปะรดสุกที่เนื้อฉ่ำหวาน โดยปอกสับปะรด เฉือนส่วนตาออกให้หมดและสับให้ละเอียด โดยใช้ทั้งน้ำและเนื้อสับปะรดนำไปคลุกเกลือ 1 ส่วนต่อสับปะรด 5 ส่วน ผสมกับปลาในอัตราส่วนเนื้อปลาหมัก 1 ส่วนกับสับปะรดคลุกเกลือ 1 ส่วน จากนั้นนำส่วนผสมมาบรรจุใส่ขวดแล้วอัดให้แน่นไม่ให้มีฟองอากาศโดยให้มีพื้นที่ว่างในขวดสำหรับก๊าซที่เกิดขึ้นระหว่างการหมัก ปิดฝาให้สนิท ตั้งทิ้งไว้ในที่ที่ไม่มีการกระทบกระเทือน ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน จึงจะสามารถเคลื่อนย้ายได้
เค็มหมากนัดจะได้ที่สังเกตจากน้ำสับปะรดมีลักษณะใสและเนื้อปลามีสีชมพู เค็มหมากนัดที่หมักไว้เกิน 6 เดือน น้ำจะใส ไม่มีกลิ่นคาว สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานเป็นปี มีรสเปรี้ยวและหวานเล็กน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว รับประทานโดยจิ้มกับผักสด หรือนำไปประกอบอาหาร เช่น หลนเค็มหมากนัด ไข่ตุ๋นเค็มหมากนัด เป็นต้น
เค็มหมากนัดนี้ได้รับการบันทึกไว้ว เคยใช้เป็นอาหารขึ้นโต๊ะเสวยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวอุบลราชธานี ใน พ.ศ. 2498 โดยในครั้งนั้น โรงเรียนการช่างสตรีอุบลราชธานี ซึ่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานีในปัจจุบัน เป็นผู้ประกอบขึ้นถวาย ณ พลับพลาที่ประทับบริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเดิม)