ศาลาแต่งแง่ วัดบันไดอิฐ เป็นศาลาที่จัดสร้างขึ้นใหม่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2530 ณ ตำแหน่งเดิม คือเชิงเขาวัดบันไดอิฐ ตำบลไร่ส้ม อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี แทนศาลาเดิมที่เคยมีอยู่เดิมในสมัยอยุธยา ที่ชำรุดทรุดโทรมและได้สิ้นสภาพไปในอดีตเป็นเวลาเกือบร้อยปี คำว่า “แต่งแง่”เป็นคำที่เพิ่งเรียกขานกันในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ศาลาแต่งแง่และเขาบันไดอิฐนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จหลายครั้ง ขณะเมื่อพระองค์เสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี อีกท่านหนึ่ง คือ สุนทรภู่ได้เคยมาเที่ยวชมและนำไปบรรยายเกี่ยวกับศาลาแต่งแง่แห่งนี้ไว้ในนิราศเมืองเพชร นอกจากนั้นในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้กล่าวถึงขุนแผนมาหาซื้อม้าสีหมอกได้ ณ สถานที่ศาลาแต่งแง่แห่งนี้เช่นกัน
ประวัติความเป็นมา
ศาลาแต่งแง่ เป็นศาลาที่ตั้งอยู่ในที่ชุมชน มีถนนหลายสายมาบรรจบกัน มีแม่น้ำเพชรบุรีไหลผ่านหน้าศาลา เป็นที่คนสัญจรไปมา นัดพบปะแลกเปลี่ยนซื้อขาย เป็นสถานที่พักแต่งหน้าแต่งตัว ทั้งเป็นศาลา ที่ตั้งอยู่ใกล้ตัวเมือง
จังหวัดเพชรบุรี ได้มีคำสั่งจังหวัดเพชรบุรี ที่ 221/2529 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2529 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำการค้นคว้าตรวจสอบประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสุนทรภู่ กวีเอกของโลก โดยมี นายภิรมย์ จับใจ ประธานชมรมผู้รับบำเหน็จบำนาญ เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการ มีความเห็นสมควรจัดสร้างอนุสรณ์สุนทรภู่ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์ วรรณคดีของสุนทรภู่ ในโอกาสต่อไป และได้นำเสนอให้มีการการจัดสร้างศาลาแต่งแง่ที่เชิงเขาบันไดอิฐด้วย ซึ่งในนิราศเมืองเพชร ได้มีกล่าวไว้
ในการจัดสร้างศาลาแต่งแง่ที่เชิงเขาบันไดอิฐ เนื่องจากพื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อ สภาพรกร้าง มีน้ำขัง จึงได้ขอรับการสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี (นายเชาวน์ สุดลาภา) ให้ความอนุเคราะห์ถมดิน ปรับพื้นที่ และได้รับการสนับสนุนจากชาวจังหวัดเพชรบุรีร่วมทุนในการจัดสร้าง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ซึ่งได้ทำพิธียกเสาเอกศาลาแต่งแง่และพิธีเปิดบ่อน้ำพระพุทธมนต์ทิพย์นิมิต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2530 ณ เชิงเขาบันไดอิฐ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คณะกรรมการชมรมผู้รับบำเหน็จบำนาญ จังหวัดเพชรบุรี. (2541) อนุสรณ์ศาลาแต่งแง่. กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์ชวนพิมพ์.