บ้านคำเจริญ หมู่ที่ 16 เดิมเป็นบ้านยางคำ หมู่ที่ 1 โดยเมื่อปี พ.ศ. 2546 ทางผู้ใหญ่บ้านคือนายนิรัตน์ จันทรา ผู้ช่วย ส.อบต. และคณะกรรมการหมู่บ้านพร้อมด้วยชาวบ้านได้ประชุมและเห็นฟ้องต้องกันว่า สมควรแยกหมู่บ้านเพราะเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และได้ทำหนังสือขอแยกบ้านเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2546 และได้มีคำสั่งอนุมัติขยายเขตการปกครองส่วนท้องถิ่น ทำการแยกเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2547 โดยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านคำเจริญ หมู่ที่ 16 ซึ่งมีนายทองสุข บุญเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคนแรกและคนปัจจุบัน บ้านคำเจริญมีประชากรทั้งหมด 548 คน มี 114 หลังคาเรือน ประชากรแยกเป็นชาย 278 คน หญิง 270 คน อาชีพประชากรส่วนใหญ่ คือ ทำนา, ทำสวน, ทำไร่,

เลี้ยงสัตว์และค้าขายเป็นต้น

รายชื่อผู้ใหญ่บ้าน

นายทองสุข บุญเลิศ

ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคนแรกและคนปัจจุบัน

ที่ตั้ง

บ้านคำเจริญตั้งอยู่ที่ ตำบลเดื่อศรีคันไชย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร อยู่ห่างจากตำบลเดื่อศรีคันไชย ประมาณ 3 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากอำเภอวานรนิวาส ประมาณ 18 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดสกลนคร ประมาณ 65 กิโลเมตร

ทิศเหนือ จรดบ้านตาดโตน ตำบลหนองแวง

อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร

ทิศใต้ จรดบ้านหนองนกกด ตำบลไฮหย่อง

อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร

ทิศตะวันออก จรดบ้านยางคำ ตำบลเดื่อศรีคันไชย

อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร

ทิศตะวันตก จรดบ้านคำหมูน ตำบลเดื่อศรีคันไชย

อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร

จำนวนประชากร/จำนวนครัวเรือน

จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 95 ครัวเรือน

จำนวนประชากรทั้งหมด 548 คน แยกเป็นเพศชาย 278 และเพศหญิง 270 คน

(ที่มา จากข้อมูล จปฐ. ปี 2550 )

ข้อมูลด้านสังคม ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น

ด้านประเพณีทุกครัวเรือนนับถือศาสนาพุทธ ปฏิบัติตามประเพณี ฮีต 12 ครอง 14 มีงานต่างๆเช่นบุญเข้าพรรษา,ออกพรรษา,บุญกฐิน ฯลฯ

สภาพทางสังคม

ประชาชนบ้านคำเจริญส่วนใหญ่ใช้ภาษาถิ่นเป็นภาษาลาว นับถือศาสนาพุทธทั้งหมด

สำหรับเรื่องการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถม โดยจากการจัดเก็บข้อมูล จปฐ.ปี 2550 เมื่อนำข้อมูลด้านการศึกษามาพิจารณาปรากฏว่ามีผู้ที่เรียนในระดับประถมมากถึงร้อย 62.18 ของจำนวนประชากรทั้งหมด

สภาพทางเศรษฐกิจ

การประกอบอาชีพ

อาชีพหลักของประชาชนบ้านคำเจริญ คือ การทำนา อาชีพรอง คือ การรับจ้าง อาชีพเสริม ได้แก่ เลี้ยงจิ้งหรีดและแมงสะดิ้ง เลี้ยงโค เมื่อนำข้อมูลการประกอบอาชีพจากการสำรวจข้อมูลจปฐ. ปี 2550 โดยนับเฉพาะผู้ที่มีอายุ ตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป ไม่นับนักเรียนนักศึกษา จำนวน 220 คน ปรากฏว่าส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำนา 164 คน ( 90.46%) รองลงมา คือ รับจ้าง 15 คน ( 46.9%) และค้าขาย 6 ครัวเรือน (31.6%) ตามลำดับ