ประเพณีการแต่งงาน ชาวไทยทรงดำบ้านยางของลาวโซ่ง เรียกว่างานกินดองหรืองานกินหลอง (งานเลี้ยงเพื่อเกี่ยวดองกันเป็นญาติ)โดยฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงรู้จักกัน โดยการเล่นลูกช่วงเมื่อรักกันดีจะเรียกผู้ใหญ่ฝ่ายชายไปขอกับพ่อแม่ฝ่ายหญิง เรียกว่า “ไปโลม” เจรจาเรียบร้อยก็จะมีการนัดวันหมั้นและวันแต่งการแต่งกายในพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวจะสวมกางเกงขายาวใส่เสื้อไททั้งชุดและสวมเสื้อฮีทับ ใส่เครื่องประดับ เจ้าสาวนุ่งผ้าซิ่นลายแตงโมใส่เสื้อฮี ใส่เครื่องประดับต่างๆ พ่อแม่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงใส่เสื้อฮี (เสื้อฮีจะใส่ด้านไม่มีลายไว้ภายนอก) ขบวนขันหมากจะประกอบด้วยสินสอดทองหมั้น (เครื่องขันหมาก) ใส่กระเหล็บ ขนมที่ใช้ประกอบพิธีในขบวนขันหมาก ได้แก่ กะละแมข้าวเหนียวแดง ขนมจันอับ ถั่วตัด ขนมเปี๊ยะ ผลไม้ประกอบพิธีไม่มี (แต่ในปัจจุบันขบวนขันหมากเริ่มมีการนำต้นกล้วย และ ต้นอ้อยมาใช้ในการประกอบพิธี)โดยฝ่ายชายจะมีเพื่อนเจ้าบ่าว ถ้าเป็นผู้ต้าวจะใช้ ๘ คน ผู้น้อย ๔-๖ คนและเพื่อนเจ้าบ่าวจะหามเหล้า ขนม ที่นอน (เพื่อนขันหมากฝ่ายชายขนมมี ๘ ถาด เหล้า ๑ เท (๓๒ขวด) ) สมัยก่อนจะมีหาบบุงก่าวประกอบด้วย หน้าจั่วหัวอ่อน คือ ไก่หน้าจั่วหัวงาม คือ หมู พร้อมเครื่องข่า ตะไคร้ หัวหอมพิธีการ เมื่อขันหมากแห่ขึ้นบ้านจะมีพิธีไหว้ฝ่ายชายจะมีล่าม คือ “องล่าม” ซึ่งล่ามฝ่ายชายจะมี ๒ ประเภท คือล่ามขันหมากและล่ามฝากตัวลูกเขย เพื่อนเจ้าบ่าวมี ๘ คน ถ้าเป็นผู้ต้าว๔ คนถ้าเป็นผู้น้อยการไหว้ล่ามจะบอกว่า “นี่พ่อตานี่แม่ยาย” เจ้าบ่าวจะไหว้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวโดยประสานมือ และม้วนมือเข้าหาลำตัว เรียก “องค์ลามไล้” ส่วนฝ่ายหญิงเมื่อขันหมากแต่งขึ้นบ้านแมปาเฮาซึ่งเป็นล่ามทางฝ่ายหญิงนำเจ้าสาวมาตั๊ก (ทักทาย) แม่เจ้าบ่าวโดยใช้เสื้อฮีพันรอบอกนั่งยองๆ ไหว้พ่อแม่เจ้าบ่าว (ไหว้เหมือนคนไทย)และไหว้ญาติเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวจะมี ๔ คน ถ้าเป็นผู้ต้าว และ ๒ คนถ้าเป็นผู้น้อยจะแต่งกายเหมือนเจ้าสาว สะพายกะเหล็บการไหว้เจ้าบ่าวถ้าเป็นผู้ต้าวจะไหว้ ๗ ที และผู้น้อยจะไหว้ ๓ ที หรือ ๖ ทีและผู้น้อยไหว้ญาติเจ้าสาว ๕ ครั้ง จากนั้นจึงทำพิธีปูเสื่อกางหยัน (ปูฟูกกางมุ้ง)เหมือนกับเป็นการส่งตัวเข้าหอ และมีพิธีฉลองในตอนกลางวัน (ถ้าฝ่ายชายจะแต่งเข้าอยู่บ้านฝ่ายหญิง จะต้องมีพิธีขอเข้าอยู่บ้านจะทำพิธีโดยล่ามฝากลูกเขยและถ้าฝ่ายหญิงจะออกไปอยู่บ้านฝ่ายชายก็จะต้องมีการทำพิธีเช่นกัน)