วัดจะทิ้งพระ
ประวัติความเป็นมา
วัดจะทิ้งพระ เป็นวัดคู่เมืองสทิงพระมาแต่โบราณ เดิมเรียกว่า “วัดสทิงพระ” ต่อมาได้มีการเรียกเพี้ยนเป็น “วัดจะทิ้งพระ” ตามตำนานนางพระยาเลือดขาวกล่าวว่าเจ้าพระยากรุงทองเจ้าเมืองสทิงพาราณสีเป็นผู้สร้างขึ้น
โบราณสถานที่สำคัญได้แก่ เจดีย์พระมหาธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐดินและอิฐปะการังสอดิน, เจดีย์องค์เล็ก, วิหารพระพุทธไสยยาสน์ชาวบ้านเรียกว่า “วิหารพ่อเฒ่านอน” เข้าใจว่าวิหารนี้สร้างในสมัยอยุธยาหนาบันวิหารมีลวดลายปูนปั้น ด้านหน้าปั้นเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ตอนล่างมีรูปยักษ์แบก รูปเทวดาและลายไทยรูปใบไม้ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยยาสน์ก่อด้วยอิฐถือปูน 1 องค์ ที่ผนังวิหารเป็นภาพจิตรกรรมภาพเรื่องพุทธประวัติฝีมือช่างท้องถิ่น
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์โบราณคดีวัฒนธรรม
รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดจะทิ้งพระเป็นประจักษ์พยานการได้รับถ่ายแบบเจดีย์ทรงลังกา แต่ครั้งที่พระอโนมทัสสีไปนำเอารูปแบบเจดีย์ลังกาเพื่อมาสร้างสรรค์ขึ้นในคาบสมุทรสทิงพระในด้านพุทธศตวรรษที่ 21 ไสยาสน์มีพุทธลักษณะงดงาม มีฝีมือช่างพื้นบ้านภาคใต้ จิตรกรรมในวิหารแห่งนี้แสดงภาพชีวิตชาวบ้านในคาบสมุทรสทิงพระตลอดจนศรัทธาและความเชื่อทางศาสนา
สิ่งสำคัญที่ขึ้นทะเบียน
1. พระเจดีย์ฐานไม้สิบสอง
2. วิหารพระพุทธไสยยาสย์
3. พระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม
4. หอระฆัง
5. กำแพง
อายุสมัย
พุทธศตวรรษที่ 21-23
ประวัติการดำเนินการ
กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติในหนังสือราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 92 ตอนที่ 136 วันที่ 21 กรกฎาคม 2518 หน้า 20 (ฉบับพิเศษ)