ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 6° 10' 4.7078"
6.1679744
ลองจิจูด (แวง) : E 101° 10' 49.9764"
101.1805490
เลขที่ : 137038
การนิกะห์
เสนอโดย ยะลา วันที่ 30 พฤษภาคม 2555
อนุมัติโดย ยะลา วันที่ 30 พฤษภาคม 2555
จังหวัด : ยะลา
1 1429
รายละเอียด

อิสลาม ได้บัญญัติเรื่องการแต่งงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีการสืบพันธุ์และรักษาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ และเพื่อให้แต่ละฝ่าย ได้สร้างความสนิทสนม แน่นแฟ้น และผูกพัน และเพื่อให้แต่ละฝ่ายมีที่พังพิง และปรึกษา หารือในขณะที่ เหน็ดเหนื่อย และ ทุกข์ยากกับการดำเนินชีวิต จนกระทั่งทั้งสองได้บรรลุ ถึงความรักใคร่และความเมตตา ดังที่ อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า ความว่า: และบางสัญลักษณ์ของอัลลอฮฺ คือ การที่พระองค์ทรงสร้างคู่ครองแก่พวกเจ้ามาจากตัวของพวกเจ้าเอง ทั้งนี้เพื่อ พวกเจ้าจะได้สงบอยู่กับนาง และพระองค์ทรงบันดาลความรักและความเมตตาให้มีขึ้นระหว่างพวกเจ้า

อัลลอฮฺ ได้บัญญัติการแต่งงาน และถือว่าการแต่งงานเป็นรัฐธรรมนูญที่มั่นคงต่อการดำเนินชีวิตแห่ง มนุษยชาติ โดยมี เป้าหมาย อันประเสริฐที่สอดคล้องกับการเป็นมนุษย์ที่อัลลอฮฺทรงยกย่อง และได้วาง บทบัญญัติให้เขายึดถือปฏิบัติ เพื่อเขาจะได้มีชีวิตที่ดีและออกห่างจากความต่ำช้า และไม่ออกจากแนวทาง แห่งพระองค์ และเมื่อเราปรารถนาที่จะ อธิบาย ถึงเป้าหมาย ของการแต่งงานในอิสลาม เราจะพบว่ามันไม่ได้หยุดอยู่ที่ความต้องการทางเพศเท่านั้น แต่มันมีเป้าหมายอื่นอีก เช่น ทางด้านสังคม จิตใจ และศาสนา

นิกะห์

นิกะห์เป็นพิธีแต่งงานของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เริ่มต้นเมื่อชายหญิงตกลงใจกันและฝ่ายชายจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอเรียกว่า มาโซะมินตะ หรือมนีแน การสู่ขอนี้จะตกลงกันระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เกี่ยวกับเรื่องมะฮัว สินสอดทองหมั้น และตกลงเรื่อง กำหนดวันแต่งงาน (นิกะห์) การทำพิธีนิกะห์ จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ

๑. ผู้ปกครองของฝ่ายเจ้าสาว เรียกว่า วะลี คือชายที่มีสิทธิในการประกอบพิธีนิกะห์ให้แก่หญิง ซึ่งจะต้องเป็นชายที่นับถือศาสนาอิสลามที่ไม่เป็นคนวิกลจริต และไม่อยู่ในระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์

๒. ผู้ทำพิธีนิกะห์ ผู้ปกครองอาจทำพิธีนิกะห์เอง หรือมอบให้โต๊ะอิหม่าม โต๊ะครู ก็ได้

๓. เจ้าบ่าว

๔. พยาน ๒ คน ต้องเป็นชายมุสลิมที่เชื่อถือได้

๕. ผู้อบรมหรืออ่านคุฎะฮ์นิกะห์

๖. มะฮัร คือ สินสอดทองหมั้นที่จะมอบแก่เจ้าสาว

ขั้นตอนการทำพิธีนิกะห์

วันทำพิธีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะเชิญโต๊ะอิหม่ามหรือโต๊ะครูเป็นประธาน และต้องมีองค์ประกอบให้ครบ 6ประการ ตามหลักศาสนาที่กล่าวมาข้างต้นด้วย การทำพิธีนิยมทำที่บ้านเจ้าสาว เมื่อเจ้าบ่าวและผู้ใหญ่มาถึงบ้านเจ้าสาว บิดาของเจ้าสาวก็จะไปขอความยินยอมจากเจ้าสาว (ขณะนั้นเจ้าสาว อยู่ในห้อง) โดยบิดาเจ้าสาวกล่าวว่า “ข้าจะแต่งงานเจ้ากับ(ออกชื่อเจ้าบ่าว) เจ้าจะยินยอมหรือไม่” เจ้าสาวจะให้คำตอบ ถ้าไม่ยินยอมพิธี จะดำเนินไปไม่ได้ถือว่าผิดหลักศาสนา จากนั้นบิดาฝ่ายเจ้าสาวก็มอบภารกิจ (วอเก) การแต่งงานให้กับโต๊ะอิหม่าม โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอมอบให้ท่านอิหม่ามทำพิธีแต่งงานลูกสาวข้าพเจ้าชื่อ…(ออกชื่อเจ้าสาว) กับ ...(ออกชื่อเจ้าบ่าว) ” เสร็จแล้วโต๊ะอิหม่ามก็จะตอบว่า “ข้าพเจ้าขอรับวอเก” แล้วเรียกเจ้าบ่าวเจ้าสาวและพยาน 2คน พร้อมด้วยผู้จดบันทึกหลักฐาน จากนั้นโต๊ะอิหม่ามหรือผู้ทำพิธีนิกะห์ จะสอนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเกี่ยวกับการครองชีวิตคู่ ย้ำถึงเจ้าบ่าวเจ้าสาว พยาน เงินสินสอด เสร็จแล้วโต๊ะอิหม่ามจะจับมือ เจ้าบ่าวพร้อมกับกล่าวว่า “โอ้..(ออกชื่อเจ้าบ่าว) ที่แต่งงานกับ…(ออกชื่อเจ้าสาว) โดยได้รับ การมอบฉันทะจากบิดาฝ่ายหญิง แก่ข้า

โดยมีค่าสินสอด..(บอกจำนวนสินสอด)” เมื่อโต๊ะอิหม่ามกล่าวจบแล้วเจ้าบ่าวจะกล่าว รับว่า “ข้าพเจ้ายอมรับการแต่งงานนี้ โดยมีสินสอดจำนวนดังกล่าวนี้” จากนั้นโต๊ะอิหม่ามจะอ่านดูอาเพื่อให้พระอัลลอฮ์ ทรงประธานพรแก่คู่บ่าวสาวโต๊ะอิหม่ามจะบอกหลักของการเป็นสามีภรรยาแก่เจ้าบ่าวว่า ตามหลักศาสนาจากนั้นผู้เป็นสามีต้องดูแลภรรยาและอยู่ร่วมกันตามหน้าที่ของ สามี ภรรยา หากไม่เป็นเช่นนี้ผู้เป็นภรรยาก็มีสิทธิ์จะฟ้องร้องสามี ต่อคณะกรรมการอิสลามหรือดาโต๊ะยุติธรรมได้ดังนี้จากนั้นโต๊ะ อิหม่ามจะอ่านดูอา เพื่อให้พระอัลลอฮ์ ทรงประธานพรแก่คู่บ่าวสาวเสร็จแล้ว โต๊ะอิหม่ามจะบอกหลักของการเป็น สามี ภรรยา แก่เจ้าบ่าวว่า ตามหลักศาสนา นั้นผู้เป็นสามีต้องดูแลภรรยาและอยู่ร่วม กันตามหน้าที่ของ สามี ภรรยา หากไม่เป็นเช่นนี้ผู้เป็นภรรยาก็มีสิทธิ์จะฟ้องร้องสามี ต่อคณะกรรมการอิสลามหรือดาโต๊ะยุติธรรมได้ ดังนี้

๑.สามีออกจากบ้านเกิน 3 วัน โดยไม่ได้รับการยินยอมจากภรรยา หากภรรยาฟ้องร้องต่อคณะกรรมการอิสลามก็จะต้อง มีการพิจารณา และสามีต้องให้เงินค่าเลี้ยงดู
๒. สามีออกจากบ้านเกิน 6 เดือน โดยไม่ได้รับการยินยอมจากภรรยา ถือว่าหมดสภาพการเป็นสามี ภรรยา ขั้นตอนสุดท้ายมีการลงชื่อ โต๊ะอิหม่าม เจ้าบ่าว เจ้าสาว บิดาฝ่ายหญิงและพยาน ในหนังสือสำคัญเพื่อเป็น หลักฐานการสมรสเป็นอันว่าเสร็จพิธีโดยสมบูรณ์แล้วจึงจัดพิธีฉลองการสมรส เชิญแขกเหรื่อ มาร่วมกัน เลี้ยงในงาน “มาแกปูโละ” ภายหลังซึ่งอาจจะจัดหรือไม่จัดก็ได้

วาลีมะห์ (การเลี้ยงฉลองการแต่งงาน)

หลังแต่งงานสามารถจัดงานเลี้ยงฉลองได้ เรียกว่า "วะลีมะฮ" ซึ่งจัดเลี้ยงที่บ้าน สโมสร หรือโรงแรมก็ได้ ตามสะดวก การเลี้ยงฉลองอาจไม่ต้องทำในวันเดียวกับวันนิกาหก็ได้ แต่การเลี้ยงฉลองนั้นต้องไม่เกิน 2วัน เพราะอิสลามเคร่งครัด ในเรื่องของงานเลี้ยงที่ฟุ่มเฟือย โดยมีคำกล่าวไว้ว่า "งานเลี้ยงที่เลวที่สุดคือ งานเลี้ยงพิธีนิกะห์ และเลี้ยงเฉพาะคนรวย" เพราะศาสนาอิสลามเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกันไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ

สถานที่ตั้ง
หมู่ที่/หมู่บ้าน 1
ตำบล ธารโต อำเภอ ธารโต จังหวัด ยะลา
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
บุคคลอ้างอิง นายยาการียา สาและ
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา อีเมล์ yala@m-culture.go.th
เลขที่ 37 ถนน สุขยางค์
ตำบล สะเตง อำเภอ เมืองยะลา จังหวัด ยะลา รหัสไปรษณีย์ 95000
โทรศัพท์ 073203511,073213916 โทรสาร 073203511
เว็บไซต์ ้http://povince.m-culture.go.th/yala
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่