เนื่องจากภูมิประเทศตั้งอยู่ที่ราบลุ่ม ล้อมรอบด้วยภูเขา ของอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิในอดีต ชาวบ้านจึงมักขึ้นเขาไปล่าสัตว์ป่าบนเทือกเขาสูง การเดินทางลำบากมาก จะนำเฉพาะสิ่งของ ที่จำเป็นติดตัวขึ้นไปเท่านั้น เช่น เกลือ พริก หอม กระเทียม รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับล่าสัตว์ที่มีน้ำหนักเบา และต้องนอนพักค้างคืนบนเขาล่าสัตว์ติดต่อกันหลายวัน เมื่อล่าสัตว์ป่าได้เป็นจำนวนมาก พรานจึงต้องหาวิธีการเก็บรักษาเนื้อสัตว์ไม่ให้เน่าเสียและง่ายต่อการนำกลับบ้านด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การย่าง ห่อส้มด้วยใบตอง ทำส้มเนื้อด้วยกระบอกไม้ไผ่ และวิธีการนำเนื้อของสัตว์ที่สับเป็นชิ้นๆ แล้วบรรจุลงในกระเพาะหรือลำไส้ ของสัตว์นั้นๆ เรียกว่า หม่ำเนื้อ นั่นเอง ปัจจุบันหม่ำมีมากในพื้นที่ตำบลบ้านบัว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ มีผู้ประกอบอาชีพทำและจำหน่ายหม่ำอย่างแพร่หลาย นับว่าหม่ำเป็นผลิตภัณฑ์สัญลักษณ์ของตำบลบ้านบัว สามารถทำรายได้เข้าตำบลบ้านบัว ยังพัฒนาการถนอมอาหารประเภทเนื้อ ในรูปแบบต่างๆ ออกจำหน่ายควบคู่กับหม่ำหลายอย่าง เช่น การทำส้มเนื้อ เนื้อแดดเดียว แหนมเนื้อ ไส้กรอก สูตรเด็ดเคล็ดลับการทำหม่ำแต่ละร้านได้พัฒนาแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เพื่อเป็นจุดขายของแต่ละร้าน แต่ทั้งนี้การทำหม่ำคงไม่หนีไกลจากสูตรดั้งเดิม คือ สูตรตำรับหม่ำบ้านบัว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิปัจจุบันตำบลบ้านบัวมีผู้ประกอบอาชีพผลิตและจำหน่ายหม่ำ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอยู่มากกว่า ๑๐ ร้าน
ฤดูที่นิยมกิน ได้ตลอดทั้งปี
รสชาติ หอม ออกเปรี้ยว ไม่เลี่ยน
คุณค่าโภชนาการ โปรตีน/วิตามิน ให้พลังงานสูง
หม่ำเนื้อ
เครื่องปรุง /ส่วนผสม
๑. เนื้อวัว
๒. ตับ
๓. กระเพาะลำไส้
๔. เกลือแกง
๕. กระเทียม
๖. ข้าวเหนียวนึ่ง
ขั้นตอน / วิธีทำ
๑. คัดเลือกเนื้อที่เป็นเนื้อสันหรือเนื้อขาหลัง (เนื้อก้อน) และตับ สับให้ละเอียด
๒. คลุกด้วยกระเทียม เกลือ ตามสัดส่วนแล้ว นวดผสมเข้ากันให้ได้ที่ นำข้าวเหนียวนึ่งสุก (แช่น้ำ ประมาณ ๑-๑ นาที) คลุกให้เข้ากันกับเนื้อ
- เนื้อที่นวดได้ที่แล้วยัดลงในกระเพาะ/ลำไส้(ต้องทำความสะอาดและคลุกเกลือ) ให้แน่น
- พอดี แล้วมัดปิดปากให้แน่นด้วยเชือกฟางพร้อมทำห่วงเชือกฟางสำหรับแขวน แล้วนำไปตากให้แห้ง ใช้เวลา ๒-๓ วัน สามารถนำไปรับประทานได้