ชื่อพื้นเมือง: สามสิบสองประดง
ชื่อวิทยาศาสตร์:Bauhinia sirindhorniaeK. & S. S. Larsen
ชื่อวงศ์: LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
สิรินธรวัลลีเรียกอีกชื่อหนึ่ง สามสิบสองประดง เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับ กาหลง และ ชงโค เป็นไม้ประจำถิ่นของไทย พบตามชายป่าดิบแล้งระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 150 – 200 เมตร พบมาก ตามป่าภูวัว เขตอำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย
พรรณไม้ชนิดนี้ค้นพบโดย ดร.เชาวลิต นิยมธรรม ผู้อำนวยการสวนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักงานวิชาการ กรมป่าไม้ สำรวจพบครั้งแรกที่บริเวณป่าภูทอกน้อยในเขตอนุรักษ์พันธุ์ไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดหนองคาย ปี ค.ศ.1997 กรมป่าไม้ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งชื่อตามพระนามาภิไธยว่า
สิรินธรวัลลี
ลักษณะทั่วไป
ราก
ราก เป็นระบบรากแก้ว และรากแขนง โดย จะเลื้อยไปตามหน้าดิน
รากแขนงแตกของจากรากแก้ว
ลำต้น
ลำต้น เป็นไม้เถาเลื้อย โดยจะเลื้อยได้ไกล ประมาณ10 – 20 เมตร มีมือพันออกตามซอกใบ แยกเป็น 2 อัน ปลายม้วนงอ ใช้เกาะเกี่ยวก้านใบหรือวัตถุอื่นที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อพยุงทรงพุ่ม
ใบ
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน ใบอ่อนมักแยกเป็น 2 ใบย่อย ปลายใบแหลมโค้งเป็น รูปเคียว โคนใบเว้า ปลายใบแยกเป็นแฉกแหลม 2 แฉกตื้น ๆ หรือแยกลึกจนเกือบชิดโคนใบ ใบอ่อนมีสีน้ำตาลแดง ใบโตเต็มที่ มีสีเขียวเข้ม หลังใบผิวมัน ท้องใบมองเห็นเส้นใบชัดเจน จำนวน 8 – 11 เส้น
ดอก
ดอก ออกเป็นช่อเชิงประกอบแบบช่อกระจุก ช่อดอกมีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม กลีบดอกประดับ มีโคนกลีบเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 3 แฉก มีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม กลีบดอกมีสีส้มถึงสีส้มอมชมพู มี 5 กลีบ ดอกจะทยอยบานในแต่ละช่อ ออกดอกประมาณเดือน กรกฎาคม – กันยายน
ผล
ผล เป็นฝักยาวแบน มีวงกลีบเลี้ยงติดอยู่ ผลอ่อนมีสีส้มหรือ มีสีน้ำตาลแดง ผลโตเต็มที่ มีสีเขียว มีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม และขนจะร่วงเมื่อผลแก่จัด
เมล็ด
เมล็ด มีลักษณะกลมแบนติดอยู่ในวงกลีบเลี้ยง ในหนึ่งฝักมีประมาณ 5 – 7 เมล็ด เมล็ดยังอ่อนและโตเต็มที่ มีสีเขียวอ่อน เมล็ดแก่จะมีสีน้ำตาลจนถึงดำ
ประโยชน์
1. ปลูกเป็นไม้ประดับเป็นซุ้มไม้เลื้อย
2. ดอกสดอ่อนนำไปทำอาหาร
3. เป็นยาสมุนไพร โดยสิรินธรวัลลีมีสรรพคุณทางยาได้แก่
ราก ลำต้น ดอก และใบนำมาต้มดื่ม เพื่อรักษา อาการปวดตามข้อ ตามเส้นเอ็น(ประดงเส้น ประดงเอ็น ประดงลม ประดงไฟ) และช่วยให้ เจริญอาหาร
ใบสดและเปลือกของลำต้นนำมาบดทา
เพื่อรักษาโรคฝี หนอง และสิว
สารต้านอมูลอิสระนอกจากนี้จากผลการวิจัย
พบว่าสิรินธรวัลลีมีสารต้านอนุมูลอิสระ
(Antioxidant)ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกัน
การเกิดโรคมะเร็ง และชะลอความเหี่ยวย่น