ประเพณีขึ้นบ้านใหม่
การทำบ้านใหม่ เมื่อทำบ้านเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยดีแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคล จะต้องหาฤกษ์ยามที่ดี หัวหน้าครอบครัวก็อัญเชิญพระพุทธรูปประจำบ้าน ไปประดิษฐานไว้ที่บูชา จุดธูปเทียนบูชา อธิษฐานขอคุณพระคุ้มครองให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข และไปเชิญหมอพรหมณ์ มาทำพิธี ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตามห้องต่างๆ ก่อนขนของเข้าไปอยู่ ก็จะสมบรูณ์ยิ่งขึ้น เพียงแค่นี้ก็ถือว่า เสร็จพิธีแล้ว หรือหากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้ๆบ้าน (เจ้าที่ใหญ่) ให้ไปไหว้แสดงความเคารพ และขอพรให้ท่านคุ้มครองดูแลให้มีความสุขความเจริญและให้ทำบุญสังฆทาน และอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของครอบครัว เจ้าที่ และวิญญาณที่อาศัยอยู่ในสถานนั้นด้วยก็ได้ แต่ขอเสนอแบบชาวอีสานที่ได้สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษ คือพิธีพราหมณ์ นำผู้เฒ่า ผู้แก่ ร่วมทำพิธีขึ้นบ้านใหม่
ความสำคัญ
พิธีขึ้นบ้านใหม่แบบโบราณ ของชาวอีสาน มีดังนี้ ให้จัดแบ่งคนเป็น ๒ จำพวก พวกหนึ่งเป็นเจ้าของเรือน คอยเตรียมใบกล้วยมา แล้วเอาหินวางทับไว้ตีนบันได อีกพวกหนึ่งหาบสิ่งของมาจะขึ้นเรือนใหม่ มีหัวหน้าพายถุงย่าม ในย่ามมีสิ่งและฆ้อนพร้อมด้วยคุด ขอ นอ งา ที่ถือว่าเป็นเครื่องค้ำของคูณ หัวหน้าคนนี้เดินนำหน้าพามาถึงเรือน แล้วเดินเวียน ๓ รอบแล้วหยุดยืนตรงบันไดบ้านฝ่ายเจ้าของเรือนก็นั่งรอคอยทักทายอยู่ พวกที่เป็นเจ้าของเรือนจะทำอาการขึงขัง แล้วถามตอบกันไปมา
เจ้าของบ้าน
ถาม = พวกนี้หาบกระตอนคอนกะต่า ขนสิ่งของมาแต่ใส
ตอบ = ข้าน้อยมาแต่เมืองมั่นคำพองเป็นเมืองมั่งคั่งสมบูรณ์ได้ยินข่าวว่าลูกหลาน ปลูกเฮือนใหม่ใส่
หญ้าเต็ม ว่าซิมาค้ำมาคูณให้อยู่ดีมีแฮง ความเจ็บบ่ให้ได้ความไข้บ่ให้มี บ่ให้อึดให้อยากบ่ให้
ขาดให้เขิน ทุกอันทุกแนวแล้วข้าน้อย
ถาม = ถ้าอย่างนั้นคันสิมาค้ำคูณให้อยู่ดีมีแฮง ให้อยู่เย็นเป็นสุข ความเจ็บบ่ให้ได้ความไข้บ่อให้มีก็ดีแล้ว เจ้าได้หยั่งมานำแน่บ่
ตอบ = ได้มาพร้อมทุกอันทุกแนวนั้นแล้ว
ถาม = กุบส่องฟ้า ผ้าส่องดาว ได้มาบ่
ตอบ = ได้มา
ถาม = ข้าทาสหญิงชายได้มาพร้อมบ่
ตอบ = ได้มาพร้อมทุกอย่างทั้งข้าทาสหญิงชาย ผ้าผ่านท่อนสะไบ ข้าวน้ำซ่ามปลา มีดไม้
แหลมหลาว แก้วแหวนเงินทองได้มาพร้อม
ถาม = ช้างม้าวัวควายได้มาบ่
ตอบ = ได้มา
ถาม = ของอยู่ของกินได้มาบ่
ตอบ = ได้มา
ถาม = แหลูกทอง มองลูกกั่วได้มาบ่
ตอบ = ได้มา
ถาม = เหล้ายา ปลาปิ้งได้มาบ่
ตอบ = ได้มา
แล้วผู้ถามก็พูดต่อไปว่า คันเจ้ามาค้ำมาคูณให้ลูกหลานอยู่ดีมีแฮงได้มาทุกอันทุกแนว ก็เชิญขึ้นมาเลยเด้อ
ต่อจากนั้นพวกที่มาก็จะเหยียบก้อนหินล้างเท้าขึ้นไป พวกหาบของก็จะนำหาบของตนเองไปวางไว้ห้องกลาง ผู้พายถุงก็จัดหาที่ห้อยถุง เอาสิ่วออกมาตอกลงที่เสาขวัญ แล้วห้อยถุงไว้ ถุงนี้ให้ห้อยไว้ถึง ๗ วัน คำตอกถุงว่าดังนี้
ตอกบาดหนึ่ง ให้ได้ฆ้องเก้ากำ
ตอกบาดสอง ให้ได้คำเก้าหมื่น
ตอกบาดสาม ให้ได้เล้าข้าวหมื่นมาเยีย
ตอกบาดสี่ ให้ได้เมียสาวมานอนเคียงข่าง
ตอกบาดห้า ให้ได้ช้างใหญ่มาโฮง
ตอกบาดหก ให้ได้ซายโถงมานอนเฝ้าเหล้า
ตอกบาดเจ็ด ให้ได้ผู้เฒ่ามานอนเฝ้าเฮือน โอมอุอะ มุมะมุนมามหามุนมังฯ
พอตอกแล้วเอาถุงห้อยไว้
เจ้าของบ้านหัวหน้าครอบครัว จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย หมอพราหมณ์ ก็ดำเนินตามพิธีการ ต่อมาเป็นพิธีปูที่นอน เมื่อเอาถุงห้อยแล้ว จัดการปูที่นอนก่อนจะนอนไปอาบน้ำผัดแป้งแต่งตัวก่อน แล้วห่มผ้าถ่วงหัวยันตีน นอนกรน แล้วให้คนหนึ่งทำเสียงไก่ขัน ๓ ครั้ง กะว่าเป็นเวลารุ่งเช้า ผู้นอนก็ตื่นขึ้นมาแก้คำฝัน ผู้นอนพูดว่า ฝันคืนนี้ฝันหลดฝันหลาด ฝันว่าเพิ่นนี้จูงแขนเข้าพาขวัญเกาะก่าย ฝันว่าเจ้านี้จับไข่ป้านปันให้แก่เฮา เหมินกระบวนแล้วคนมือเกลี้ยงอ่อยห่อย ฝันว่าน้องพี่จับจ่องนิ้วเอาอ้ายเข้าบ่อนนอนเมื่อแก้คำฝันแล้ว ฝ่ายเจ้าของเฮือนก็ให้พรว่า เออนอนหลับให้เจ้าได้เงินหมื่น นอนตื่นให้เจ้าได้เงินแสน แปนมือมาให้เจ้าได้แก้วมณีโชติโทษฮ้ายอย่ามาพาน ฝูงมารอย่าได้มาข้อง ฝูงพี่น้องมิตรหมู่สหายโอมสหมฯ เป็นเสร็จพิธีขึ้นเฮือนใหม่ ต่อจากนั้นก็ทำการบายศรีสู่ขวัญกันตามธรรมเนียม