ประวัติวัดดาวคะนอง
วัดดาวคะนองเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง เชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2300สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า "วัดปากคลอง" ได้วิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2308วัดดาวคะนองเป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากวัดหนึ่ง คือมีเนื้อที่ถึง 41ไร่ 1งาน ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับคลองชลประทาน ทิศเหนือติดต่อกับโรงเรียนวัดดาวคะนอง และที่อยู่ของชาวบ้าน ทิศตะวันออกเป็นถนน ต่อออกไปเป็นทุ่งนา
มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า เมื่อคราวที่สร้างพระอุโบสถหลังเดิมนั้น ในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถเกิดเหตุอัศจรรย์คือ มีดาวหลายดวงปรากฏบนท้องฟ้า เห็นได้ชัดเจนมากแม้เป็นเวลากลางวัน จึงเรียนวัดนี้ว่า วัดดาวคะนอง สืบมาจนทุกวันนี้
วัดดาวคะนอง เป็นที่ประกอบศาสนกิจของชาวตำบลโพธิ์สามต้น หมู่ที่ 1และหมู่ที่ 2 เป็นวัดที่ร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ อายุนับร้อยปีอยู่หลายต้น นอกจากนี้ยังมีศาลาท่าน้ำรูปทรงสวยงามมาก ทำดัวยไม้ อยู่ที่ริมลำคลอง มีสะพานต่อเชื่อมมาจากศาลาแต่เป็นที่น่าเสียดายว่าได้ชำรุดทรุดโทรมไปมากแล้ว เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีการสัญจรทางน้ำแล้ว ผู้คนใช้ถนนหน้าวัดทางทิศตะวันออกเป็นส่วนมาก และ หากจะต้องบูรณะให้มีสภาพสวยงามดังเดิมคงต้องใช้งบประมาณไม่น้อย
สถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกอย่างหนึ่งของวัดดาวคะนอง คือศาลาตรีมุข เป็นศาลาที่เชื่อมกับศาลาการเปรียญ มีมุขทั้งสามด้าน เป็นศาลาไม้ค่อนข้างเก่าแก่ มีรูปทรงและสัดส่วนที่งดงามอย่างยิ่ง นับเป็นฝีมือช่างที่หาชมได้ยากอีกแห่งหนึ่ง
วัดดาวคะนองเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายก็เพราะมีประพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านรู้จักและให้ความเคารพนับถือมาก เรียกกันว่า "หลวงพ่อโตวัดปากคลอง" เป็นพระพุทธรูปขนาดค่อนข้างใหญ่ หน้าตักกว้าง 8 ศอก ปางมารวิชัย อยู่ในพระวิหาร
หากใครไปวัดดาวคะนองจะพบโรงละเก่าแก่ ซึ่งก็ชำรุดใช้การเกือบไม่ได้แล้วเช่นกัน แต่ก็เป็นร่องรอยที่บอกให้ทราบว่า เคยมีการแสดงละครที่วัดแห่งนี้บ่อยมากเพราะเป็นที่รู้กันว่า การแก้บนหลวงพ่อโตนั้น จะต้องแก้บนด้วยละคร ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วขึ้นไป จะมีละครมาแสดงบ่อยอยู่เสมอ จึงต้องสร้างเป็นโรงละครมาตรฐานไว้ไห้แก่ผู้ที่มาแก้บน แต่ปัจจุบัน จะมีละครใบ้ หรือรูปปั้นละครมาแก้บนเป็นส่วนมาก โรงละครที่ชำรุดจึงไม่มีการบูรณะ