ศาลเจ้าพ่อ พลตรีพระยาประเสริฐสงคราม
ที่อยู่ตั้งอยู่ที่ ค่ายประเสริฐสงคราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
ในปลายปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ขยายกิจการในกองทัพบกขึ้นเป็นการใหญ่ ที่ตั้งของจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ดเดิมนั้นเคยเป็นที่ตั้งหน่วยทหารขนาดใหญ่ คือ "กรมบัญชาการกองพลที่ ๑๐"
ครั้นต่อมา พ.ศ. ๒๔๕๕ กระทรวงกลาโหมย้ายกรมบัาการกองพลที่ ๑๐ จากพระนครมาตั้งในท้องที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเลือกที่ตั้ง ณ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการสะดวกบังคับบัญชาของหน่วยทหารจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช เป็นผู้บัญชาการ และตั้งให้หลวงจงพยุหะ (เทียบ คมกฤส) ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๑๐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเสนาธิการกองพลอีกตำแหน่งหนึ่ง และในปลายปีนี้เองก็ได้เลื่อนขึ้นเป็น พันโทชั้น ๑ และรับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เป็น พระรามณรงค์
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๖๒ พันเอก พระยาประเสริฐสงคราม (เทียบ คมกฤส) รับตำแหน่ง
ผู้บัญชาการกองพลที่ ๑๐ และในระหว่างปีนี้ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นพลตรี จากนั้นได้ผลัดเปลี่ยนตำแหน่งกับ พระยาเสนาภิมุข ผู้บัญชาการกองพลที่ ๕ จังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๔๖๗-๒๔๖๙) และกลับมาดำรงค์ตำแหน่ง ท่านก่อสร้างสาธารณูประโยชน์มากมายแก่ชาวร้อยเอ็ด จนถึงปี ๒๔๗๑ จึงได้มีการยุบหน่วยทหารตามแผนการเปลี่ยนแปลงกิจการทหารบก รวมเวลาดำรงตำแหน่งยาวนานถึง ๘ ปี ซึ่งในขณะนั้นชาวบ้านนิคมเรียกค่ายทหารนี้ว่า "ค่ายประเสริฐสงคราม"
ชาวบ้านจึงได้รวมใจก่อสร้างศาลฯขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงคุณงามความดีของท่าน สันนิษฐานว่า ชื่อเรียกเดิมน่าจะเป็น "ศาลเจ้าพ่อธรรมโหราประเสริฐศักดานุภาพ" อันหมายถึง ศาลพระภูมิคุ้มครองดูแลเรือกสวนไร่นาผู้มีฤทธิ์เดชานุภาพต่อมาภายหลังเรียกกันสั้นลงดังเช่นปัจจุบัน
บริเวณที่ตั้งศาลแห่งนี้ เดิมเป็นศาลไม้ขนาดเล็ก จำนวน ๓ หลัง ครั้งเมื่อ พลตรีไชยพร รัตแพทย์ มาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด จึงได้ให้มีการปรับปรุงเป็นศาลก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ ๑ หลัง ออกแบบโดยกองพันทหารช่างที่ ๖ และก่อสร้างโดยกำลังพลของจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด โดยประกอบพิธีบวงสรวงและอันเชิญสถิตบนศาลฯ แห่งนี้ เมื่อ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นปีที่ ๒๙ ของจังหวัดร้อยเอ็ด