ข้าวเบ๊อะ หรือ“ตะกะโป่”
ความหมายและความสำคัญ
ข้าวเบ๊อะ หรือ“ตะกะโป่” เป็นอาหารที่มีประวัติเล่าสืบทอดกันมาว่า วันหนึ่งมีข้าวสารเหลืออยู่น้อยมากเกรงว่าจะไม่พอกินจนครบคน จึงใช้วิธีการไปเก็บเอาผักสารพัดชนิดที่มีอยู่ในสวนมาปรุงรวมกับข้าวที่เหลือน้อยนิดนั้น ผลปรากฏว่าอาหารมื้อนั้นทำให้อิ่มครบทุกคน จึงเป็นที่มาของคำว่า“ตะกะโป่”ซึ่งมีความสำคัญต่อจิตใจในทุกครั้งที่มีงานสำคัญ เช่น วันปีใหม่ พิธีเรียกขวัญทำบุญต่างๆ ของชาวปกาเก่อญอ ข้าวเบ๊อะ หรือ ตะกะโป่ เป็นองค์ประกอบของอาหารมื้อสำคัญ นิยมทานเป็นอาหารเช้ามากกว่ามื้ออื่นๆส่วนประกอบของข้าวเบ๊อะ นั้นขึ้นอยู่กับวัสดุที่มีอยู่ กล่าวโดยสรุปคือ ข้าว ผักต่างๆ และเนื้อสัตว์มาต้มจนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ส่วนประกอบ
๑.ข้าวสาร
๒.เนื้อสัตว์ต่างๆ/กระดูกหมู/ไก่ สามารถเลือกใช้ชนิดใดก็ได้
๓.ผักชนิดต่างๆ เช่น ยอดฝักทอง ยอดมะพร้าว เป็นต้น
๔.เครื่องเทศ ประกอบด้วย ข่า ตะไคร้ ขมิ้น มะแขว่น กระเทียม หัวหอมแดง และพริกแห้ง
๕.เครื่องปรุงรส ประกอบด้วยเกลือ กะปิ ซุปก้อน
ขั้นตอนการปรุง
๑.เตรียมเครื่องเทศทั้งหมดแล้วนำมาโขลกให้เข้ากันจากนั้นเติมเกลือและกะปิลงไปเล็กน้อยจนเครื่องปรุงทั้งหมดแหลกเป็นเนื้อเดียวกัน
๒.นำน้ำสะอาดเทลงหม้อแล้วต้มให้เดือด
๓.นำข้าวสารใส่ลงในน้ำที่เดือดแล้วทิ้งไว้สักระยะรอจนข้าวสุก
๔.นำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้เทลงไป รอจนกว่าข้าวและเนื้อสัตว์จะเปื่อย
๕.นำผักและซุปก้อนใส่ลงไปในหม้อ หมั่นคนเป็นระยะๆ ระวังอย่าให้หม้อแห้งเกินไป
๖.เมื่อเนื้อสัตว์และข้าวเริ่มเปื่อย ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ ปรุงรสด้วยเกลือ ต้มต่อไปอีกสักครู่และคอยคนจนส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีรับประทาน
สามารถตักรับประทานเหมือนข้าวต้มได้เลย หรือจะรับประทานกับข้าวสวยและกับข้าวอย่างอื่นด้วยก็ได้
โอกาสและระยะเวลาในการทำ
การทำข้าวเบ๊อะ หรือ ตะกะโป่ สามารถทำเมื่อใดก็ได้ แต่ชาวปกาเก่อญอนิยมทำตอนที่มีพิธีกรรมในชุมชนหรือวันสำคัญในครอบครัว และทำเมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้าน อย่างไรก็ตาม “ตะกะโป่” นิยมทานเป็นอาหารเช้ามากกว่ามื้ออื่นๆเพราะเป็นช่วงที่มีเวลาทำกับข้าวมากเนื่องจากใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน
ข้อห้าม ข้อปฏิบัติ และความเชื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของชาวปกาเก่อญออีกชนิดหนึ่ง ไม่มีข้อห้ามใดๆ ทั้งนี้ นอกจากอร่อยแล้วยังมีความเชื่อว่าข้าวเบ๊อะ หรือ “ตะกะโป่”จะเพิ่มสารอาหารทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย