ชื่อ ฟ้อนล่องน่าน
ประวัติความเป็นมา
ฟ้อนล่องน่าน เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อฟ้อนพื้นเมืองของชาวน่าน หรือ " ล่องน่าน" เป็นสำคัญแต่เดิมผู้ฟ้อนจะเป็นเพศชายเท่านั้น เพราะในสมยก่อนเพศหญิงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบนเรือแข่งเป็น อันขาด ฟ้อนชนิดนี้มักจะฟ้อนประกอบกับวงกลองล่องน่าน ซึ่งมีจังหวะช้า เยือกเย็น ทำให้ผู้ฟ้อน สามารถอวดลีลาการฟ้อนได้อย่างเต็มที่ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " ฟ้อนลายงาม " เจ้ามหาพรหม สุรธาดา ฯ เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่สามารถฟ้อนล่องน่านได้อย่างสง่างาม เมื่ ครั้งที่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสด็จตรวจราชการเมืองน่าน เมื่อปี พ.ศ. 2460 ทางเมืองน่านได้จัดแข่งขันเรือยาวให้ทอดพระเนตร เจ้ามหาพรหมสุรธาดา ฯ ก็ได้ลงไปฟ้อนล่อง น่านในเรือลำที่ชนะเลิศด้วย สมัยต่อมา ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ฟ้อนบนเรือแข่งได้ และเรียกว่า " ฟ้อนล่องน่าน " ตามอาการที่ฟ้อนล่องตามลำน้ำน่านเช่นกัน การฟ้อนประเภทนี้ อาจไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับแม่น้ำน่าน แต่ถือเอาวงกลองเป็นสำคัญ การฟ้อนใดที่ฟ้อนเข้ากับจังหวะของกลองล่องน่าน ก็จะเรียกว่าฟ้อนล่องน่าน การฟ้อล่องน่าน มี 2 ประเภท ได้แก่ 1. ฟ้อนล่องน่านแบบดั้งเดิม เป็นฟ้อนที่คลี่คลายมาจากฟ้อนเซิง หรือฟ้อนลายงามของผู้ชายบนเรือแข่ง การฟ้อนล่องน่านแบบดั้งเดิมจะไม่มีการก้าวเท้า หรือถ้ามีก็จะมีการขยับเท้าแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะไม่มีการจีบมืออย่างการรำตามแบบนาฏศิลป์ไทยเพียงแต่กรีดกรายนิ้วแต่พองามเท่านั้น
2.ฟ้อนล่องน่านที่ได้รับอิทธิพลมาจากภายนอก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการฟ้อนเล็บของทางเชียงใหม่และการรำตามแบบนาฏศิลป์ไทย บางหมู่บ้านและบางสถานศึกษาจึงมีการนำท่าฟ้อนเหล่านี้เข้ามาผสมผสานกับท่าฟ้อนล่องน่านแบบดั้งเดิม รวมถึงมีการฟ้อนหมุนตัวเป็นรูปครึ่งวงกลมตามอย่างฟ้อนเล็บด้วย ประกอบกับดนตรีชุดวงกลองล่องน่าน
ท่าฟ้อนล่องน่านตามแบบดั้งเดิม ประกอบด้วย 9 ท่า
1. ท่าไหว้ระดับอก
2. ท่าไหว้ระดับหน้าผาก
3. ท่าบิดบัวบาน
4. ท่าผาลาด
5. ท่าปลาเลียมหาด
6. ท่าเกี้ยวเกล้า
7. ท่าบัวบาน
8. ท่าธงชัย
9. ท่าไหว้ระดับอก
การแต่งกาย
ผู้หญิง สมเสื้อแขนกระบอก นุ่งซิ่นม่าน เกล้าผมเหน็บดอกเอื้อง
โอกาสที่แสดง
แสดงบนเรือแข่งเมืองน่าน แสดงในงานบุญต่างๆ
ดนตรีประกอบการฟ้อน
เพลงล่องน่าน