หลวงปู่บุญเลี้ยง สุชาโต เป็นพระนักพัฒนาและมีความเชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447 ที่บ้านหนองโน อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
เมื่อท่านได้มาจำพรรษาที่วัดหนองเต่า หรือวัดเจริญธรรมพานิช ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพานิชธรรมิการาม ท่านได้สร้างกุฏิพระ เมรุ วิหารต่างๆ และศาลาภายในวัด และยังสร้างอุโบสถบนหลังเต่าขึ้นภายในวัด เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งสร้างบารมีเสวยพระชาติเป็นเต่าตนุใหญ่เสียสละชีวิตเป็นอาหารและกระดองแทนเรือเพื่อช่วยพ่อค้าและลูกเรือสำเภาเรือแตกจมลงกลางพายุให้รอดพ้นจากความตาย วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่สร้างพระอุโบสถอยู่บนหลังเต่า ภายในตัวเต่าจะเป็นห้องโถงกว้าง ครั้งสร้างเสร็จใหม่ๆ ใช้เป็นที่สอนหนังสือเด็กนักเรียน แต่ปัจจุบันใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ท่านยังมีสามารถพูดภาษาไทย จีน มอญ ลาว ได้เป็นอย่างดี มีความรอบรู้เกี่ยวกับสมุนไพรรักษาโรค นอกจากนี้ยังมีคาถาที่ทำให้อยู่ยงคงกระพัน และคาถาเมตตามหานิยม จึงมีผู้มาขอสมัครเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก
เมื่อ พ.ศ.2471 หลวงปู่บุญเลี้ยงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพานิชธรรมิการาม จากนั้นได้รับตำแหน่งคณะกรรมการสงฆ์อำเภอในหน้าที่องค์การเผยแผ่อำเภอบ้านหมี่ เป็นพระครูใบฎีกา ได้รับพระราชทานพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูธรรมาภิมณฑ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปชฌาย์ และเป็นพระธรรมทูตสาย ๒ จังหวัดลพบุรี
หลวงปู่บุญเลี้ยงมรณภาพเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ชาวบ้านเก็บศพหลวงปู่ไว้กราบไหว้บูชานานถึง ๑๖ ปี จนกระทั่งถึงวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2544 จึงได้มีการฌาปนกิจศพและนำอัฐิบรรจุไว้ใต้ฐานรูปหล่อ เพื่อให้ชาวบ้าน และบุคคลคนทั่วไปได้กราบไหว้บูชาของท่าน
นอกจากนี้ทางวัดและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันสร้างวิหารหลวงปู่บุญเลี้ยง สุชาโต เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2531 เพื่อระลึกถึงพระคุณของท่าน