พระแก้วบุษราคัมเป็นพระพุทธรูปบูชา หน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูงประมาณ 5 นิ้ว แกะสลักด้วยแก้วบุษราคัม (แก้วมณีสีเหลือง) ทึบทั้งแท่ง พระเศียรหุ้มเป็นเม็ดพระศกทองคำ มีพระสังวาลประดับที่องค์พระ มีฐานหุ้มด้วยทองคำ นับว่าเป็นพระพุทธรูปฝีมือช่างสกุลเชียงแสนปางมารวิชัยที่มีความงดงามมาก
ตามเอกสารประวัติพระแก้วบุษราคัมของวัดศรีอุบลรัตนารามกล่าวไว้ว่า “พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปโบราณ มีอายุมากกว่าพันปีแล้ว ได้อัญเชิญมาจากรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) เดิมเป็นสมบัติของเจ้าปางคำ ซึ่งเป็นผู้มาสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลำภูในปัจจุบัน) เมื่อเจ้าปางคำถึงแก่อนิจกรรม เจ้าพระตาผู้เป็นบุตรก็ครองเมืองแทนพระบิดา ต่อมาในปี พ.ศ.2314 เจ้าพระตาเสียเมืองนครเขื่อนขันธ์ฯ แก่พระเจ้าสิริบุญสารแห่งกรุงเวียงจันทน์ และถึงแก่อนิจกรรมในสนามรบ เจ้าพระวอผู้เป็นบุตรได้อพยพออกจากเมืองนครเขื่อนขันธ์ฯ ก็ได้อัญเชิญพระแก้วองค์นี้มาด้วย มาสร้างบ้านสิงห์โคก, บ้านสิงห์ท่า (จังหวัดยโสธร) บ้านดอนมดแดง (จังหวัดอุบลราชธานี), บ้านดู่, บ้านแก (แขวงเมืองเก่าปากเซ ประเทศลาว) ต่อมาพระเจ้าสิริบุญสาร สั่งให้พระยาสุโพนำทัพมาตีเจ้าพระวอออกรบ และเสียทีแก่ข้าศึกถึงแก่อนิจกรรมในสนามรบ เจ้าคำผงผู้เป็นบุตรได้ดำรตำแหน่งหัวหน้าสือต่อมา ภายหลังได้มาสร้างเมืองอุบลราชธานี และได้รับโปรดเกล้าฯ จากรัชกาลที่ 1 ให้เป็นพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ เจ้าเมืองอุบลราชธานี และได้สร้างวัดหลวงเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม”
หลังสิ้นอายุขัยของพระเจ้าคำผง พระแก้วบุษราคัมถูกนำไปซุกซ่อนไว้เนื่องจากเกรงว่าข้าหลวงจากกรุงเพทฯ จะขอเอาพระแก้วบุษราคัมไปถวายเจ้านายของตน ต่อมาจนกระทั่งมีผู้อัญเชิญพระแก้วบุษราคัมออกจากที่ซุกซ่อนมาถวายให้อยู่ในความคุ้มครองของพระเทวธัมมีที่วัดศรีทอง (หรือวัดศรีอุบลรัตนาราม) ด้วยมั่นใจว่าท่านจะสามารถรักษาพระแก้วบุษราคัมได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเป็นสัทธิวิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตอนเสด็จออกผนวช ซึ่งน่าจะเป็นที่เกรงขามของข้าหลวงจากทางกรุงเทพฯ ได้ พระแก้วบุษราคัมจึงประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีทองนับตั้งแต่นั้นมา
ปัจจุบันพระแก้วบุษราคัมประดิษฐานอยู่ในหอคำ (บุษบก) ภายในซุ้มคูหาที่ผนังพระอุโบสถด้านบนหลังพระประธาน ในพระอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนารามพระอารามหลวง ประชาชนทั่วไปสามารถเข้านมัสการพระแก้วบุษราคัมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 16:00 น. และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ชาวเมืองอุบลฯ จะจัดขบวนแห่พระแก้วบุษราคัมรอมเมืองอุบลฯ เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศได้นมัสการและสรงน้ำองค์พระแก้วบุษราคัมกันอย่างทั่วหน้า