ต้นตะเคียนทองคู่โบราณ ตั้งอยู่ที่วัดบ้านท่ากกแห่ บ้านท่ากกแห่ ตำบลแจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้มีการขุดค้นพบเมื่อต้นปี พ.ศ. 2555 นี้เอง และมีการออกข่าวไปทั่ว ในข่าวได้กล่าวว่า ผู้พบต้นตะเคียนทองคู่นี้คือคนขับรถตักดินของบริษัทตระกูลออ ที่ต้องการขุดบ่อดิน เมื่อขุดลึกระดับ 7-10 เมตร ปรากฏว่าพบท่อนไม้ขนาดใหญ่ ความกว้าง 3.5 เมตร ยาว 25 เมตร จึงได้ยกขึ้นมาไว้ด้านข้างบ่อ ซึ่งท่อนไม้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ที่สามารถนำไปใช้งานได้
ต่อมาหลังจากขุดขึ้นมาได้ 2-3 วัน คนขับรถตักดิน ฝันเห็นผู้ชาย ผิวดำ รูปร่างสูงใหญ่ และหญิง รูปร่างเล็ก เดินรอบๆบ่อขุดดิน พร้อมต่อว่าคนขับว่ามารบกวน คนขับฝันเช่นนี้ถึง 3 วันติดกัน คนขับทนไม่ไหวจึงเดินไปกล่าวที่ท่อนไม้ว่า "ถ้าต้องการอยู่ที่เดิม ก็จะนำไปฝังกลบไว้ที่เดิม แต่หากต้องการไปอยู่วัด ก็อย่ามากวนอีก" ซึ่งคนขับก็ไม่ฝันถึงชายและหญิงคนนั้นอีกเลย คนขับรถจึงนำเรื่องราวไปเล่าให้กับพระปลัด ดร.ประดิษฐ์ วังสธํมโม เจ้าอาสวัดท่ากกแห่ทราบ ซึ่งเจ้าอาวาสเองก็ฝันว่ามีชายผิวดำร่างใหญ่ มาขออยู่ด้วย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ที่สอดคล้องกัน จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายมาไว้ที่วัดท่ากกแห่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2555
จากนั้นจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ระบุว่า เป็นไม้ตะเคียนทอง (ไม้แคน) ชื่อวิทยาศาสตร์ Shorea Obfusa และทางสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 ขอนแก่น สันนิษฐานว่าจากสภาพที่ท่อนไม้ ฝังลึกอยู่ในดินถึง 7-10 เมตร รวมถึงสภาพของชั้นดิน ยืนยันว่า ไม้ตะเคียนทอง มีอายุมากกว่า 1,000 ปี หลังจากที่นำมาเก็บไว้ในบริเวณวัดท่ากกแห่ ชาวบ้านต่างนำดอกไม้ ผ้าแดง แป้ง มากราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ด ตามความเชื่อ จากนั้นได้มีการจัดงานประกอบพิธีอัญเชิญไม้ตะเคียนทองคู่โบราณขึ้นแท่นรองรับและประกอบพิธีบวงสรวงเมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.09 น. ที่วัดท่ากกแห่ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
สำหรับต้นตะเคียนนั้นเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20-30 เมตร พบตามที่ราบริมน้ำในป่าดิบทั่วไป เปลือกมี สีน้ำตาลเข้มเกือบดำ แตกเป็นสะเก็ด ใบเดี่ยวรูปไข่แกมรูปหอก ปลายใบแหลม ขนาดกว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 10-15 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็กสีขาวนวล กลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อยาวๆ ตามซอกใบและปลายกิ่ง
ต้นตะเคียนมีเนื้อไม้แข็งทนทาน ใช้ขุดทำเรือมาดและเรือยาวมาตั้งแต่โบราณ ชาวบ้านมักเชื่อกันว่า ต้นไม้นี้มีผีสางนางไม้อยู่ประจำเรียกว่าผีนางตะเคียน จึงไม่ควรไปตัดโค่น หรือนำมาใช้ประโยชน์