การทอผ้าฝ้ายเป็นภูมิปัญญาของคนไทยในด้านการทำเครื่องนุ่งห่มไว้ใช้เองในครัวเรือน โดยสามารถทอเป็นผืนใหญ่ไว้ใช้เป็นผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าปูต่างๆ ได้ และยังนำมาทอขนาดเฉพาะเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องแต่งกายของทั้งหญิงและชาย เช่น เสื้อ กางเกง ผ้าซิ่น ผ้าสไบ เป็นต้น ผู้ที่มีบทบาทหลักในการทอผ้ามักจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยจะมีการสืบทอดภูมิปัญญาการถักทอ การย้อมมาตั้งแต่อดีต จากรุ่นสู่รุ่น
วัสดุสำคัญในการทอผ้าฝ้ายคือ เส้นฝ้ายซึ่งได้มาจากการนำปุยฝ้ายมาปั่นให้เป็นเส้น แล้วนำมาใช้ทอเป็น
ผ้า เครื่องมือที่ใช้ในการทอผ้าเรียกว่า "กี่" ในภาษาอีสาน (ภาษาไทยกลางเรียกว่า "หูก") ผู้ทอจะต้องนำเส้นด้ายมาขัดกันเพื่อให้เกิดลวดลาย โดยต้องขึงด้ายกลุ่มหนึ่งให้เป็นเส้นยืน แล้วใช้ด้ายอีกส่วนหนึ่งมาสอดเป็นเส้นขวาง ซึ่งระหว่างการทอจะมีการยกสลับด้ายเส้นยืนเป็นระยะ เพื่อให้เกิดลวดลายตามต้องการ
ในอดีตเด็กผู้หญิงในครัวเรือนจะสามารถสืบทอดการทอผ้าได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ เป็นการสอนในลักษณะการซึมซับตามสภาพแวดล้อม เนื่องจากเติบโตมากกับการทอผ้าฝ้ายของผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันนี้เด็กสาวรุ่นใหม่ทอผ้าได้น้อยลง เนื่องจากย้ายไปเรียนและเติบโตในตัวเมืองมากขึ้น และมองว่าการทอผ้าต้องใช้เวลานานและมีความละเอียดสูงจนเกินไป ผู้เฒ่าผู้แก่ก็กลัวเช่นกันว่าภูมิปัญญาด้านนี้อาจสูญหายไปในที่สุด หากไม่มีการสืบทอดไว้
การทอผ้าฝ้ายสาธิตโดยนางทองจันทร์ จันทร์เทพ เลขที่ 92/3 บ้านกุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี