เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2509 ทหารกัมพูชาที่หาดยาว ได้รุกล้ำอธิปไตยของชาติ โดยยิงปืนจากหลักเขต 72 บนสันเขาบรรทัดมายังหมู่บ้านหาดเล็ก กรมนาวิกโยธินจึงได้สั่งการให้ กองพันทหารราบที่ 2 กรมผสมนาวิกโยธิน(ค่ายตากสิน) จัดกำลัง 1 หมวดปืนเล็กเพิ่มเติมกำลังเรียกชื่อว่า หน่วย 201 เพื่อคุ้มครองที่บ้านหาดเล็ก โดยมี ร.ท.วสินธ์ สาริกะภูติ(ยศขณะนั้น) เป็นผู้บังคับหมวด ต่อมาได้มีการปะทะกัน ระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาหลายครั้ง กองพันทหารราบที่ 2 กรมผสมนาวิกโยธินจึงได้ปรับกำลังเป็นกองร้อยปืนเล็กเพิ่มเติมกำลังเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2509 กองพันทหารราบที่ 2 กรมผสมนาวิกโยธิน รับผิดชอบในการจัดกำลังเพื่อปกป้องพื้นที่บ้านหาดเล็กจนถึงปี พ.ศ.2513 จึงได้ถอนกำลังและส่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจตระเวนชายแดน รักษาพื้นที่แทน เนื่องจากสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ต่อมาเมื่อ เมษายน พ.ศ.2518 สัมพันธไมตรีระหว่าง ไทย – กัมพูชา ต้องขาดสะบั้นลงอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พื้นที่บ้านหาดเล็กเข้าอยู่สภาวะวิกฤติ ล่อแหลมต่อการส่งกองกำลังเข้ายึดจากฝ่ายกัมพูชา กรมนาวิกโยธินจึงสั่งการให้กองพันทหารราบที่ 2 กรมผสมนาวิกโยธิน จัดกำลัง 1 กองร้อยปืนเล็กเพิ่มเติมกำลัง สนับสนุนด้วยหมู่เครื่องยิงลูกระเบิด 4.2นิ้ว สนธิกำลังเป็นหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 เรียกชื่อย่อว่า “ฉก.นย.182” กลับมาปฏิบัติภารกิจในการป้องกันอธิปไตยของชาติ และคุ้มครองประชาชนบ้านหาดเล็กอีกครั้งหนึ่งจนถึงปัจจุบัน พลเรือโท วสินธ์ สาริกะภูติ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด พร้อมด้วยประชาชนบ้านหาดเล็ก รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงมีความประสงค์ร่วมกัน ในการก่อสร้างอนุสรณ์สถานนาวิกโยธินบ้านหาดเล็กขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการรู้รักและสามัคคี ของบุคคลในชาติ อีกทั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงวีระชนผู้เสียสละชีพเพื่อชาติตลอดไป