กลุ่มดินหอมมะลิโดยนายสิรินทร์ ยศรุ่งเรือง
บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 ต.โรงหีบ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
คุณสิรินทร์ ย้อนอดีตให้ฟังว่า ก่อนมาจับงานนี้ ได้รับจ้างผลิตงานการเขียนป้ายโฆษณาต่างๆ ให้ผู้ว่าจ้างในท้องถิ่นบ้านเกิด ภายหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันใน จ.ราชบุรี กระทั่งมีการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้ความต้องการชิ้นงานโฆษณาที่เกิดขึ้นผ่านการว่าจ้างลดลง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งกับการหาช่องทางที่จะสร้างรายได้ให้แก่ตัวเองแทนอาชีพเดิม "ผมสนใจด้านการประดิษฐ์อยู่ก่อนแล้ว เมื่องานเขียนป้ายลดลง ผมจึงเริ่มหันมาสู่งานฝีมือนี้อย่างจริงจัง เมื่อปี 2546 โดยได้เข้าร่วมอบรมปั้นดิน คือการนำดินที่เป็นดินหอมมาปั้นเป็นชิ้นงาน กับชมรมดินหอมมะลิแห่งประเทศไทย จ.นครปฐม ด้วยมีพื้นฐานและชื่นชอบงานด้านศิลปะเป็นทุนเดิม เมื่อได้รับความรู้มากขึ้น จึงเป็นโอกาสให้ผมได้ปั้นดินหอมเป็นดอกไม้ มาลัยดอกมะลิ กระทั่งไปสู่รูปแบบสินค้าที่ใช้เป็นของตกแต่งบ้าน" สิรินทร์บอกถึงที่มาการหันมาปั้นดินหอมเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่าย โดยเปิดบ้านพักเลขที่ 7 หมู่ 5 บ้านคลองตะโก ต.โรงหีบ อ.บางคนที เป็นหน้าร้าน ต่อเมื่อชิ้นงานซึ่งมีความประณีต สวยงาม เป็นที่สนใจของผู้บริโภคมากขึ้น สิรินทร์จึงได้ตั้ง "กลุ่มดินหอมมะลิ" ขึ้นมาหลังชิ้นงานของเขาวางจำหน่ายกว่า 1 ปี และมีสมาชิกแรกเริ่มกว่า 10 คน โดยยอมรับว่าการเลือกทำงานประดิษฐ์ในรูปดอกไม้เดี่ยว ดอกไม้ช่อ พวงมาลัยงานแต่ง พวงมาลัยพานพุ่ม ฯลฯ และใช้ดินหอมเป็นวัตถุดิบสำคัญ เพราะเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์จะมีโอกาสเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะจุดเด่นชิ้นงานของกลุ่ม ที่แทบไม่มีข้อแตกต่างระหว่างของที่ประดิษฐ์ขึ้นกับของที่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญชิ้นงานแต่ละชิ้นไม่เสื่อมสภาพง่าย มีความคงทน อยู่ได้นาน และด้วยเป็นคุณลักษณะพิเศษนี้เอง จึงสร้างแรงซื้อจากผู้บริโภคให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผลงานของสมาชิกเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ชิ้นงานกลุ่มถูกนำออกจำหน่ายตามงานเทศกาลต่างๆ ที่ภาครัฐ ภาคเอกชนจัดขึ้น ทำให้สินค้าได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อชิ้นงานพวงมาลัยดินหอมของกลุ่มได้การรับรองมาตรฐานคุณภาพในโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) ของ จ.สมุทรสงคราม ระดับ 4 ดาว 2 ปีซ้อน คือปี 2552 และ 2553 ตามลำดับ
"สินค้าที่กลุ่มผลิตขึ้น ราคาตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 8,000 บาท ระยะเวลาผลิต เริ่มจากไม่ถึงชั่วโมงต่องานหนึ่งชิ้น ไปจนถึงใช้เวลามากกว่า 3 วันต่องาน 1 ชิ้น ขณะที่การตลาดของกลุ่ม นอกจากการบอกต่อของผู้ซื้อ การออกบูธจำหน่ายยังที่ต่างๆ รวมทั้งงานโอท็อปประจำปีที่เมืองทองธานีแล้ว ยังรวมไปถึงการใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางเผยแพร่ผลงาน และรับคำสั่งซื้อด้วย จากการที่เราได้มีโอกาสออกร้านเป็นประจำ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มมีลูกค้าจากทั่วประเทศ อีกทั้ง จากต่างประเทศที่สั่งออเดอร์ผ่านทางเว็บไซต์ หลักๆ ก็จากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และบางประเทศในแถบยุโรป"
ด้วยฐานรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยหลักหมื่นบาทของสมาชิก และเกือบ 2 หมื่นบาทของสิรินทร์จากการจำหน่ายชิ้นงาน ได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปจนถึงต้นปี โดยสินค้าของกลุ่มจะมีออเดอร์เป็นจำนวนมากเพื่อมอบให้กันในวาระพิเศษ จนทำให้รายได้จากการจำหน่ายขยับขึ้นไปจากเดิมถึง 1 เท่าตัวเลยทีเดียว
เพื่อให้งานฝีมือปั้นดินหอมเหล่านี้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สิรินทร์ฝากถึงผู้สนใจอยากเรียนรู้ อยากทราบวิธีการทำ เพื่อเป็นอาชีพทำรายได้นำมาใช้หล่อเลี้ยงครอบครัว และเพื่อให้งานฝีมือดังกล่าวมีโอกาสก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง กลุ่มยินดีให้ความรู้แก่ทุกคน สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-1398-3171
มาลัยจากดินหอม
วัสดุ/อุปกรณ์ : ดินหอมมะลิ สีผงสีบานเย็น-สีเหลือง สีโปสเตอร์สีเหลือง-สีเขียว กาว ด้าย วาสลีน กลม กระจกสำหรับทับดินกรรไกร ปากคีบ ถุงพลาสติก ไม้จิ้มฟัน
วิธีทำ :
1.ผสมสีโดยใช้สีบานเย็นผสมกับสีเหลืองเล็กน้อย ใช้ผสมดินทำกลีบกุหลาบ
2.ใช้สีโปสเตอร์สีเขียวผสมกับสีเหลือง ใช้ผสมดินทำใบ/กลีบเลี้ยง
3.ใช้สีเหลืองบิดเหลือบกับสีเขียวเล็กน้อย ใช้ผสมดินทำดอกผกากรอง
4.นำดินที่ย้อมสีแล้วประดิษฐ์เป็นดอกมะลิตูม มะลิแย้ม ดอกพุด ดอกรัก กุหลาบ ดอกข่า ใบแก้ว ผกากรอง จำปา
5.นำดอกรัก ดอกข่า/จำปา ร้อยเป็นอุบะแบบต่างๆ เช่น อุบะแขก อุบะฟูสองชั้น อุบะไทย ทรงเครื่อง
6.นำดอกมะลิ ดอกพุด กลีบ ใบแก้วและผกากรอง ร้อยเป็นมาลัยแบบต่างๆ เช่น มาลัยซีก มาลัยกลม มาลัยตุ้ม
7.นำมาลัยที่ร้อยเสร็จแล้วมาประกอบเข้ากับอุบะ เป็นอันแล้วเสร็จ จะได้พวงมาลัยดินหอมที่สวยงาม