ชักคะเย่อ เป็นการละเล่นกีฬาพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีมาแต่สมัยโบราณ มีการเล่นสืบทอดกันมายาวนาน สันนิษฐานได้ว่าดัดแปลงมาจากการละเล่นซักส้าว ซึ่งมีลักษณะการเล่นดึงกันไปมา และมีการแข่งขันในกรีฑานักเรียน ครั้งแรกของกรมศึกษาธิการ ณ ท้องสนามหลวง พ.ศ.2441 และแพร่หลายในจังหวัดต่าง ๆ ของภาคกลาง นิยมแข่งกันเป็นหมู่คณะ 7 –20 คน การเล่นชักคะเย่อเป็นที่นิยมกันเล่นในงานเทศกาล งานประเพณี ต่างๆ ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
อุปกรณ์
1. เชือกขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 20 –30 เมตร จำนวน 1 เส้น
2. ผ้าแดง 3 ผืน สำหรับใช้ผูกเป็นเครื่องหมายที่เชือก 3 ระยะ คือ ผืนหนึ่งผูกไว้ตรงกลางความยาวของเชือก อีก 2 ผืน ผูกไว้โดยวัดจากกึ่งกลางของเชือกออกไป ข้างละ 2 เมตร
วิธีการเล่น
1. จัดหาสถานที่ให้กว้างเพียงพอ ขีดเส้นยาวลงบนพื้น หนึ่งเส้นเป็นเส้นแบ่งแดน ห่างจากเส้นแบ่งแดนออกไปข้างละ 2 เมตร ตีเส้นยาวขนานกับเส้นแบ่งเขตแดนของแต่ละฝ่าย
2. นำเชือกมาวางลงที่พื้นตามยาว ให้เชือกพาดผ่านเส้นแบ่งแดน โดยให้กึ่งกลางเชือกทับเส้นเขตแบ่งแดนของแต่ละฝ่ายพอดี ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายอยู่คนละแดน ยืนเป็นแถวตอนเดียว ผู้เล่นแบ่งเป็นทีมชายหรือทีมหญิง ทีมละ 10 - 20 คนตามต้องการ
3. เมื่อเริ่มเล่นให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจับเชือกไว้ทุกคนเป็นแถวตอนดึงเชือกให้ตึงพอประมาณ ให้ผ้าแดงที่ผูกไว้อย่างกึ่งกลางเชือกตรงกับเส้นแบ่งแดนพอดี
4. เมื่อได้ยินสัญญาณ ให้แต่ละฝ่ายออกแรงดึงเชือกเข้ามายังเขตแดนฝ่ายตน ฝ่ายใดดึงเชือกจนผ้าแดงที่ผูกเชือกฝ่ายตรงข้ามเข้ามายังเขตแดนตนได้จะเป็นผู้ชนะ ฝ่ายใดชนะ 2 ครั้ง ติดต่อกัน หรือ 2 ใน 3 ครั้ง จะเป็นผู้ชนะเด็ดขาด
กติกา
1. ผู้เล่นแต่ละทีมจะต้องจับเชือกไว้หลังผ้าแดง ซึ่งอยู่ทางฝ่ายตนและยืนอยู่หลังเส้นเขตแดนของตน
2. ขณะดึงห้ามส่วนใดของร่างกายถูกพื้น ยกเว้นเท้า
3. ห้ามนำเชือกไปผูกไว้กับสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะการพันเอวและพันแขน
4. ผู้ฝ่าฝืนกติกาจะถูกปรับแพ้
5. กรรมการเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขันและตัดสินผลการแข่งขัน ถือเป็นที่ยุติ