แมลงทับ
แมลงทับ ภาษาอีสาน “แมงคับ” (อังกฤษ: Jewel beetle, Metallic wood-boring beetle, Buprestid) เป็นแมลงในอันดับแมลงปีกแข็ง(Coleoptera) โดยจัดอยู่ในวงศ์ Buprestidae
แมลงทับมีรูปร่างโดยรวม คือ มีลำตัวยาวโค้งนูน ส่วนที่เป็นปีกแข็งมีความแข็งมาก หัวมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้อกปล้องแรกซึ่งโค้งมนเรียวไปทางหัวเชื่อมกับอกปล้องกลางซึ่งกว้างกว่าส่วนอื่น ๆ ท้องมนเรียวไปทางปลายหาง ปีกแข็งหุ้มส่วนท้องจนหมด มีหนวดที่เป็นแบบใบไม้ มีลักษณะเด่น คือ มีสีสันที่สวยงามมาก หลายชนิดหลายสกุลมีสีเงางามแวววาวราวกับอัญมณีหลายชนิดเป็นสีที่หลากหลาย ทั้งน้ำเงิน,แดง,ดำและเหลืองจึงทำให้แมลงทับถูกมนุษย์จับนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ มานานแล้วในหลายชนชาติ
แมลงทับพบในเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก ปัจจุบันพบแล้วกว่า 15,000 ชนิด ใน 450 สกุล และที่สูญพันธุ์ไปแล้วเป็นซากดึกดำบรรพ์กว่า 100 ชนิด บางชนิดมีความยาวถึง 77มิลลิเมตร
แมลงทับเมื่อขยายพันธุ์ จะเจาะเข้าไปวางไข่ในต้นไม้หรือวางไข่ไว้ในดินใกล้รากของไม้ที่ตัวหนอนจะกินเป็นอาหารจึงนับเป็นแมลงศัตรูพืชอีกจำพวกหนึ่ง ซึ่งแมลงทับใช้เวลาในการเป็นไข่-ตัวหนอน-ดักแด้ราว 1 ปี เหมือนเช่นแมงคีมหรือด้วงกว่างอันเป็นแมลงปีกแข็งแต่ต่างวงศ์กัน
แมลงทับนับเป็นแมลงปีกแข็งที่บินได้เร็วและสูงมาก และเมื่อถูกรบกวนจะมีพฤติกรรมแกล้งตาย โดยจะอยู่เฉย ๆ หรือหล่นจากต้นไม้ที่เกาะอยู่เพื่อลวงศัตรูให้เข้าใจผิดว่าตายแล้ว
สำหรับแมลงทับชนิดที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือ
๑.แมลงทับกลมขาเขียว(Sternocera aequisignata) พบมากในภาคกลาง
๒.แมลงทับกลมขาแดง(S . ruficornis) พบมากในภาคอีสาน
แมลงทับทั้ง 2 ชนิดนี้กินใบอ่อนของมะขามเทศเป็นอาหาร และมีสีเขียวเหลือบทองเป็นมันแวววาวทั้งคู่ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีความพยายามของทางการที่จะอนุรักษ์สายพันธุ์ของแมลงทับมิให้สูญพันธุ์และมีการนำเอาปีกแมลงทับทั้ง 2 ชนิดนี้ทำเป็นงานหัตถกรรมชนิดต่าง ๆ ในโครงการพระราชดำริศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ บางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ด้วยความสวยงามของแมงทับ คนในภาคอีสานมักนำเอาปีกของแมลงทับหรือแมงคับ มาประดับไว้ที่ฝากระติบข้าวเหนียว เพื่อเอาไว้ดูเล่น