วัดม่วง
ประวัติความเป็นมาของวัด
วัดม่วงสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.๒๓๖๕ เดิมมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่ๆ อยู่มากชาวบ้านจึงเรียกตาสภาพท้องที่ตั้งวัด ชาวบ้านแถวนี้ ส่วนมากมีถิ่ฐานอยู่ที่เวียงจันทร์ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ได้เคยเสด็จมาและได้ประทับเสวยพระกระยาหารที่บนศาลา การเสด็จครั้งนั้นได้เสด็จโดยทางน้ำ ในการสร้างอุโบสถ พ.ศ. ๒๕๒๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาวางศิลาฤกษ์ สำเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จมาทรงเปิด พระนามาภิไชยย่อ "ส.ก." ที่ได้โปรดพระราชทานไว้แก่วัด นำมาประดิษฐ์ฐานไวที่ผนังบนอุโบสถ
ตั้งอยู่ที่ตำบลอินทร์บุรีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนสายเอเซีย ห่างจากตัวตลาดอินทร์บุรีมีทางเลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นประมาณปี พ.ศ. ๒๓๖๕ เดิมนั้นมีต้นมะม่วงอยู่มากจึงเรียกว่า “วัดม่วง” ภายในวัดมีวิหารเก่าแก่เป็นอาคารปูนรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้ามีมุขยื่นออกมาที่หน้าบันประดับด้วยภาชนะเครื่องถ้วยต่างๆ ในวิหารมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยพุทธลักษณะงดงาม ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีรูปฐานสิงห์ มีฐานบัวขนาดใหญ่รองรับ เพดานประดับด้วยลายเขียนรูปดาว มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่น ฝีมือช่างพื้นบ้านสันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ และมีเรื่องราวพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตลอดจนแสดงภาพชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมของสังคมโบราณในระดับต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุที่สำคัญ
อุโบสถกว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๓ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ โครงสร้างเป็นคลอนกรีตเสริมเหล็ก มีหน้าบันอุโบสถมีพระนามาภิไชยย่อ "ส.ก." อยู่
ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๒.๕๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑
กุฎิสงฆ์จำนวน ๙ หลัง
วิหารจำนวน ๑ หลัง มีฝาผนังภายในมีภาพพุทธประวัติทศชาติและนรกสวรรค์ พระประธานในอุโบสถ มีลักษณะปางมารวิชัย และพุทธชินราช เนื้อทองเหลือง
เจดีย์๑ องค์ ฐานกว้างด้านละประมาณ ๕ วา สูงประมาณ ๑๕ วา ชาวบ้านเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เจดีย์สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป
การบริหารและการปกครอง
นับตั้งแต่ได้สร้างวัดแล้วเสร็จ มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาและเจ้าอาวาสปกครองวัด คือ พระสำรวย
ฉายา ปุญญฺปาโล ชื่อเดิม สำรวจ นามสกุลปานบุญ