ที่มาของอาหาร
น้ำพริกและน้ำพริกเผาต่างๆเป็นส่วนประกอบของอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันโดยใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆหรือใช้ในการรับประทานเป็นกับข้าวชนิดหนึ่งก็ได้เนื่องจากเป็นอาหารที่มีรสชาดคุ้นเคยกับคนไทยมาโดยตลอดจึงเป็นที่นิยมจนกระทั่งปัจจุบันโดยน้ำพริกเผาได้แบ่งเป็นหลายประเภทแล้วแต่วัตถุดิบในการใช้ผลิตเช่นน้ำพริกเผากล้วย น้ำพริกเผาปลา น้ำพริกเผากุ้ง เป็นต้น
เครื่องปรุง/ส่วนผสม
ส่วนประกอบ
-พริกแห้งใหญ่-เล็ก
-มะขามเปียก
-กุ้งแห้ง
-กะปิ
-น้ำมันพืช
-หัวหอม
-กระเทียม
-เกลือ- ผงชูรส-น้ำตาล
ขั้นตอน/วิธีการทำ
๑.นำส่วนประกอบทั้งหมดมาทอดในน้ำมันพอเหลืองและมีกลิ่นหอม
๒.นำมาตำให้ละเอียดเข้ากัน
๓.ตักขึ้นมาลงกระทะเคี่ยวให้แห้งและใส่น้ำมะขามเปียก
๔.เติมผงชูรส น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
เทคนิคพิเศษ
เคี่ยวให้ข้น และมีรสจัด
วิธีรับประทาน
รับประทานเป็นกับข้าว และกินกับผักเหนาะต่าง ๆ และใช้ปรุงอาหาร
รสชาติน้ำพริกเผามีรสเค็มหวานอยู่แล้ว
คุณค่าทางโภชนาการ
น้ำพริก มีส่วนผสมของสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีส่วนประกอบทั่วไป คือพริก กระเทียม หอมแดง กุ้ง น้ำปลา กะปิ หรือปลาร้า หรือส่วนผสมอื่นที่เป็นที่นิยมของแต่ละภาค น้ำพริก สามารถเพิ่มการสร้างเซลล์กำจัดเชื้อโรคได้อย่างเป็นธรรมชาติส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจให้ดีขึ้นซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
น้ำพริกมีส่วนประกอบของ antioxidants และ anti-ageingซึ่งสามารถลดการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ได้ร้อยละ 20 และโรคลม โรคทางสมองได้ร้อยละ 26 ถึง 42 นอกจากนี้ น้ำพริกยังสนับสนุนให้คนทั่วไปนิยมทานผัก ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนเราไม่สามารถที่จะทานน้ำพริกโดยไม่ทานผักและข้าวไปด้วยได้ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า เส้นใยผักช่วยในระบบการย่อยอาหารน้ำพริกมีรสชาติที่อร่อย หากใช้ส่วนประกอบที่มีคุณภาพ และผักที่สะอาดน้ำพริกบางประเภทใช้พริกต่างชนิดกัน เพื่อรสชาติที่ดีสำหรับน้ำพริกประเภทนั้นๆ"