อำเภอเมืองสระแก้วมีประวัติเกี่ยวกับที่มาของชื่อ คือ ชื่อสระน้ำโบราณในพื้นที่อำเภอสระแก้ว ซึ่งมีอยู่ ๒ สระ อยู่ในพื้นที่หมู่ ๖ และ หมู่ ๗ ตำบลสระแก้ว ในปัจจุบัน ซึ่งห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ ๑ กิโลเมตร ในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๒๓ พระบาทสมเด็จพระพุทธ-ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกไปตีประเทศเขมร ได้แวะพักทัพที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ กองทัพได้อาศัยน้ำจากสระใช้สอย และได้ขนานนามสระทั้งสองว่า “สระแก้ว-สระขวัญ” และนำน้ำจากสระทั้งสองแห่งนี้มาใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ เมื่อมีการยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอครั้งแรกนั้น จึงได้ใช้ชื่อสระน้ำมาเป็นชื่อของกิ่งอำเภอ และใช้ชื่อนี้เป็นชื่อของอำเภอ ในเวลาต่อมา
อำเภอสระแก้ว เดิมมีฐานะเป็นตำบล อยู่ในการปกครองของอำเภอกบินทร์บุรี อยู่ในเส้นทางเดินจากที่ตั้งจังหวัดปราจีนบุรี ผ่านออกไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อก่อน ร.ศ.๑๒๔ (พ.ศ.๒๔๔๔) ทางราชการได้ตั้งเป็นด่านสำหรับตรวจคนเข้าออกระหว่างชายแดนไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส มีข้าราชการตำแหน่งนายกอง เป็นนายด่าน ครั้นต่อมา เมื่อ ร.ศ.๑๒๘ (พ.ศ.๒๔๕๒) จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ชื่อว่า “กิ่งอำเภอสระแก้ว” ขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอกบินทร์ และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๐๑ จึงได้มี พระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ชื่อว่า “อำเภอสระแก้ว” และในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะอำเภอสระแก้ว ขึ้นเป็นอำเภอเมืองสระแก้ว
คำขวัญอำเภอเมืองสระแก้ว
“หลวงพ่อทองคู่เมือง ลือเลื่องน้ำตกปางสีดา ล้ำค่าธรรมชาติ แหล่งประวัติศาสตร์สระแก้ว สระขวัญ สร้างสรรค์เกษตรอินทรีย์”