ประวัติความเป็นมา/เรื่องราวที่น่าสนใจของร้าน
ร้านเจ๊ตุ๋ย กระบองจ่อ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาแล้วจำนวน ๕ รุ่น คือ
รุ่นที่ ๑ คุณยายแก้ว คำดอนใจ (ยาย)
รุ่นที่ ๒ คุณยายคำผง พุ่มประจักษ์(ลูกสาว)
รุ่นที่ ๓ คุณจันทรา สุขจิต (ลูกสาว)
รุ่นที่ ๔ นางสุภา อินต๊ะ (ลูกสาว)
รุ่นที่ ๕ (ปัจจุบัน) นางทัษภรณ์ อินต๊ะ (หลาน)
โดยเริ่มต้นจาก คุณยายแก้ว คำดอนใจ ผู้เป็นยายได้เดินทางไปค้าขายที่จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศพม่า ได้รับประทานอาหารพื้นเมือง เรียกว่า มูดีจ่อ หรือ“กะปองจ่อ” มีความหมายว่า
มูดี หมายถึง น้ำเต้า
กะปอง หมายถึง ขนมกรอบ
จ่อ หมายถึง ทอด
แต่เดิม “กระปองจ่อ”ของชาวเมียนมาจะนิยมรับประทานเฉพาะน้ำเต้าและถั่วงอกชุบแป้งทอดเท่านั้น น้ำจิ้มจะมีรสเปรี้ยวและเค็ม โดยส่วนประกอบของน้ำจิ้ม คือ น้ำมะขามแช่กระเทียมสดโขลก, พริกป่น, ถั่วแปะม้งคั่วป่น (คล้ายถั่วเหลือง), เกลือป่น และผลชูรสเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยจึงเรียกเพี้ยนไปเป็น “กระบองจ่อ” คุณยายแก้ว เป็นคนแรกที่นำเอากระบองจ่อเข้ามารับประทานในเขตพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยระยะแรกคุณยายแก้วได้ทำกินกันในครอบครัว และเปิดขายตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๐ เป็นต้นมา เริ่มแรกคุณยายแก้วใช้วัตถุดิบเหมือนชาวเมียนมา คือ น้ำเต้าและถั่วงอกชุบแป้งทอดรับประทานคู่กับน้ำจิ้ม แต่มีการคัดแปลงน้ำจิ้มให้มีรสชาติถูกปากคนไทย ดังนี้
๑. น้ำมะขามแช่กระเทียมสดโขลก
๒. น้ำอ้อยเคี้ยว
๓. พริกป่น
๔. ถั่วลิสงคั่วป่น
๕ เกลือ
นำเครื่องปรุงทั้งหมดมาผสมกันจะได้รสเปรี้ยว หวานและเค็ม
ต่อมารุ่นที่สอง คุณยายคำผง พุ่มประจักษ์ เป็นลูกสาวคุณยายแก้ว คำดอนใจ ได้สืบทอดภูมิปัญญาของคุณแม่ โดยเพิ่มวัตถุดิบสำหรับชุบแป้งทอด นอกจากน้ำเต้าแล้ว ยังได้นำฟักทอง และถั่วงอกผสมมะละกอขูดฝอย