พระครูวิมล กิตตยาภรณ์ เกิดวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๐๖ การศึกษาปริญญาโท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเชียงคาน
เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุวัดเชียงคาน เทศบาลตำบลสถาน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๐ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนผู้สูงอายุจำนวนมาก มีการร่วมกลุ่มหัตกรรมผู้สูงอายุ กลุ่มอาชีพต่างๆ ในเทศบาลตำบลสถาน และเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนขนาดใหญ่ และเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบที่มีความโดดเด่นทางด้านโรงเรียนผู้สูงอายุ โดยการนำการริเริ่มโครงการของพระครูวิมล กิตตยาพรณ์
เปิดหลักสูตรโรงเรียนฯ โดยได้เล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ให้เกิดคุณค่าและอื่น ๆ
ความโดดเด่นวัดเชียงคาน
วัดเชียงคานมีพระพุทธรูปแสนแซ่พระแสนแซ่ เป็นคำเรียกพระพุทธรูปโบราณที่ชาวล้านนาหล่อขึ้นหลายๆ ส่วน แล้วนำมาประกอบกันเข้าเป็นองค์พระพุทธรูป โดยใช้วิธีการยึดด้วยสลักหรือหมุดตามข้อต่อต่างๆ ชาวล้านนาเรียกสลักหรือหมุดว่า “แซ่” หรือ “แซ่ว” ส่วน “แสน” หมายถึง มากมายยิ่ง
ดังนั้น พระพุทธรูปที่ใช้สลักหรือแซ่ยึดไว้เป็นจำนวนมาก จึงเรียกชื่อว่า “พระแสนแซ่” เช่นเดียวกับในภาคกลางเรียกพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ว่า “หลวงพ่อโต” นั่นเอง
พระพุทธรูปแสนแซ่ เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญมีพุทธลักษณะที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ ที่ยาวนานและผูกพันกับพุทธศาสนิกชนในตำบลสถานมาโดยตลอด เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว สูง 41.5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 85.5 กิโลกรัม จากหลักฐานจารึกอักษรที่ฐานพระพุทธรูประบุว่า “เจ้าเณรเจ้าก๋านมะกะละ สร้างพระแสนแซ่ถวายไว้ที่วัดบ้านแหน
เมื่อปีพุทธศักราช 1991 ปีระกา เดือน 8 ขึ้น 8 ค่ำ”
สถานที่ตั้งวัดบ้านแหน ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนบ้านเชียงคาน ตำบลสถาน อำเภอ เชียงของ จังหวัดเชียงราย
ต่อมาวัดบ้านแหน ได้ชำรุดทรุดโทรมมากลายเป็นวัดร้างไป เมื่อใดไม่ปรากฏ ในปีพุทธศักราช 2444 ประชาชนชาวบ้านเชียงคาน ได้ขุดพบพระแสนแซ่ ณ บริเวณวัดบ้านแหน และได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในหมู่บ้าน เนื่องจากยังไม่ได้สร้างวัด จนกระทั่ง พ.ศ.2448 เมื่อชาวบ้านได้สร้างวัดเชียงคานขึ้นแล้ว จึงได้อัญเชิญพระแสนแซ่มาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงคาน จนถึงปัจจุบัน
จากพุทธลักษณะที่งดงามและเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ จึงทำให้พระแสนแซ่ เป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนในพื้นที่ตำบลสถาน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
จากคณะศรัทธาดังกล่าว พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ตำบลสถาน โดยเทศบาลตำบลสถาน สภาวัฒนธรรมและคณะสงฆ์ จึงได้จัดให้มีประเพณีสืบชะตาและปิดทองพระแสนแซ่ขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์งานวัฒนธรรมประเพณีสืบชะตาของท้องถิ่นล้านนาให้คงสืบต่อไป เป็นการเผยแพร่ให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้รู้จักอย่างแพร่หลาย เป็นการเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีและการมีส่วนร่วมทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชน ประกอบกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของท้องถิ่น
งานพิธีสืบชะตา เป็นงานประเพณีที่บรรพบุรุษของเราได้ถือปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านาน จัดขึ้นเพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้กำลังใจ และก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่บุคคล ชุมชน ท้องถิ่น และประเทศชาติตลอดไป