ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 15° 50' 48.0001"
15.8466667
ลองจิจูด (แวง) : E 103° 22' 48"
103.3800000
เลขที่ : 193168
โบราณสถาน "กู่บ้านแดง"
เสนอโดย มหาสารคาม วันที่ 8 กันยายน 2563
อนุมัติโดย มหาสารคาม วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
จังหวัด : มหาสารคาม
0 161
รายละเอียด
กู่บ้านแดง ตั้งอยู่ที่บ้านแดง ตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม สภาพปัจจุบันค่อนค้างพังทลายมาก จากรูปที่ปรากฏสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นปราสาทขนาดเล็ก ๓ หลังตั้งเรียงกันอยู่บนฐานเดียวกัน ก่อด้วยศิลาแลงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก แต่เดิมอาจมีแนวกำแพงศิลาแลงล้อมรอบ ที่บริเวณด้านบนของกรอบประตูทางเข้า (ปราสาทหลังกลาง) เคยมีทับหลังหินทรายแดง สลักเป็นรูปรัตนตรัยมหายานตั้งประดับอยู่ ต่อมาได้ถูกขโมยไปแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่ จังหวัดนครราชสีมา โบราณสถานนี้เคยมีการขุดแต่งแล้วบางส่วนเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๒๓ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ กู่บ้านแดงประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘ และประกาศกำหนดขอบเขตโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๐๐ ตอนที่ ๓๖ วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๖ พื้นที่ ๔ ไร่ ๒ งานโบราณสถานวัตถุจากกู่บ้านแดง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม๑. ทับหลังสลักภาพรัตนตรัยมหายาน ทับหลังชิ้นนี้ สลักจากหินทรายแดงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่เดิมเคยประทับอยู่ในตำแหน่งเหนือกรอบประตู่ทางเข้าที่กู่บ้านแดง ต่อมาได้ถูกขโมยไปและเจ้าหน้าที่ ตำรวจของจังหวัดนครราชสีมาจับกุมคืนมาได้ ปัจจุบันเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย จังหวัดนครราชสีมา ภาพสลักบนแผ่นทับหลังตรงส่วนกลางเป็นภาพของพระพุทธรูปนาคปรกประทับนั้งอยู่เหนือยลายหน้ากาลเป็นประธานของแผ่นทับหลัง ด้านขวามีรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรประทับยืนอยู่ (ทำเป็นรูปบุรุษ ๔ กร) ส่วนด้านซ้ายเป็นรูปนางปรัชญาปารมิตา (รูปสตรี ๒ กร) ภาพลักษณะเช่นนี้ เรียกกันว่า "รัตนตรัยมหายาน” ส่วนข้างทั้งสองด้านของแผ้นทับหลังสลักเป็นภาพบุคคลประทับนั้งบนหลังช้าง ๓ เศียร (พระอินทร์บนหลังช้างเอราวัณ) และมีบุรุษ ๑ คนนั่งประนมมือหันเข้าสู่ส่วนกลาง เมื่อพิจารณาจากลักษณะลวดลายที่ปรากฏสันนิษฐานว่าเป็นงานศิลปกรรมแบบบายนของขอม ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘๒. ชิ้นส่วนพระหัตถ์สลักจากหินทราย ชิ้นส่วนพระหัตถ์ ที่พบจากการขุดแต่งกู่บ้านแดง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ มีจำนวน ๓ ชิ้น งานหมดสลักจากหินทรายสีเทาอมดำ โดยแบ่งเป็นพระหัตถ์ข้างขวามี ๒ ชิ้น และพระหัตถ์ซ้าย ๑ ชิ้น พระหัตถ์ขวาชิ้นแรกทรงถือดอกบัวตูมที่มีก้านพาดผ่านอุ้งพระหัตถ์ด้านล่าง มีความยาวของพระหัตถ์ (เท่าที่เหลือ) ๑๒ เซนติเมตร พระหัตถ์ขวาชิ้นที่สองทรงถือคัมภีร์ (สลักคล้ายแผ่นคัมภีร์ใบลานทับซ้อนกัน) มีความยาว ๗.๕ เซนติเมตร สำหรับพระหัตถ์ซ้ายที่พบเพียงชิ้นเดียวทรงถือคัมภีร์ เช่นกัน โดยมีความยาวของพระหัตถ์ที่พบ ๑๒ เซนติเมตร เมื่อพิจารณาจากลักษณะของเทพศัสตราวุธที่ได้พบแล้วสันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นส่วนพระหัตถ์ของ พระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธ สันนิษฐานว่าเป็นงานศิลปกรรมแบบบายนของขอม ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘๓. ส่วนล่างของเสาประดับกรอบประตู "ฤาษี” ชิ้นส่วนดังกล่าวสลักจากหินทรายแดง เป็นส่วนล่างของเสาประดับกรอบประตูโดยด้านล้างข้างใต้สลักเป็นเดือยกลมเพื่อใช้เสียบกับธรณีประตูของปราสาท ส่วนบนแตกชำรุดหายไป พบจำนวน ๒ ชิ้นมีความกว้าง ๒๕ เซนติเมตร ด้านหน้าสลักเป็นลายรูปฤาษีนั่งชันเข่ายกขึ้นในท่า "โยคาสานะ” มือทั้งสองพนมไว้ที่หน้าอกถือพวงลูกประคำ ฤาษีมีเครายาวลงมา และเกล้ามวยผมสูงโดยมีประคำรัดมวยผมไว้ ด้านบนทำเป็นกรอบประตูดังกล่าว เมื่อพิจารณาจากลักษณะลวดลายที่ปรากฏสันนิษฐานว่าเป็นงานศิลปกรรมแบบบายนของขอม ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ อายุสมัย : ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งอาณาจักรเขมรประเภทโบราณสถาน : ศาสนสถาน สร้างเนื่องในพุทธศาสนาลัทธิมหายานลักษณะการใช้งานในปัจจุบัน : โบราณสถาน (ร้าง)ที่ตั้ง : บ้านแดง ตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
หมวดหมู่
โบราณสถาน
สถานที่ตั้ง
กู่บ้านแดง
หมู่ที่/หมู่บ้าน บ้านแดง
ตำบล หนองแสง อำเภอ วาปีปทุม จังหวัด มหาสารคาม
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
บุคคลอ้างอิง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด มหาสารคาม อีเมล์ phongsun_k@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน นางสาวพลอยไพลิน มหาโชคไชย
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่