เนื่องจากก่อนที่จะมีการก่อตั้งเป็นวัดดงเฒ่าเก่า ว่ากันว่า เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา บริเวณนี้เป็นเส้นทางการเดินทางของพวกขอมโบราณ ซึ่งเชื่อมกันกับเส้นทางตามแนวชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา หากมีการพักค้างแรมที่ไหนก็จะมีการก่อสร้างสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพวกขอมโบราณ จึงปรากฏเป็นหลักฐานให้เห็น เช่น ใบเสมา พระพุทธรูป กำแพง และอื่นๆ ในปัจจุบันต่อมา พระครูจิตตปาลคุณ(บุญนำ) ตำแหน่งเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระอารามหลวงชั้นเอก ได้เดินธุดงค์ไปหลายพื้นที่ทั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว),กัมพูชา และพม่า กระทั่งเดินผ่านพื้นที่ดงเฒ่าเก่า พบว่า เป็นที่เหมาะสมที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้ปักกลดจำพรรษาอยู่ที่นี่ กระทั่งชาวบ้านนาหมอม้าทราบข่าว ก็เลยร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ ก่อสร้างกุฏิ อุโบสถและอื่นๆ ขึ้น จนกลายเป็นวัดดงเฒ่าเก่า และนิมนต์ พระครูจิตตปาลคุณ(บุญนำ)เป็นเจ้าอาวาสวัด ปกครองพระสงฆ์ 5 รูป ไม่มีสามเณรและแม่ชี สังกัด ธรรมยุติ บนเนื้อที่ 100 ไร่ มีต้นไม้ขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่หมายปองของบรรดามอดไม้ แอบเข้ามาตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงพวกนิยมวัตถุมงคล จะแอบเข้ามาขุดหาอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด เข้ามาขโมย พระนารายณ์และพระพิฆเนศเนื้อสัมฤทธิ์ทั้ง 2 องค์ อายุหลายร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่หน้าพระประธาน ในศาลาการเปรียญ เพียงชั่วข้ามคืนก็เอากลับมาคืนไว้ที่เดิม เนื่องจากมีคนไปทวงเอาคืนถึงบ้าน และบางคนที่เข้ามาตัดไม้ ก็จะถูกอาถรรพ์ต่างๆ ถึงกับเป็นบ้าเสียสติ ซึ่งชาวบ้าน เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องรักษาป่าเป็นผู้ลงโทษหัวขโมยเหล่านั้น ทุกวันนี้ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปลักตัดไม้หรือแอบเข้าไปขุดหาวัตถุมงคลหรือของเก่าอีกเลย