วัดศาลาลอย ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนครราชสีมา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครราชสีมานับถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยเจ้าพระยามหิศราธิบดี (ปลัดทองคำ) และท้าวสุรนารี หรือ “คุณย่าโม” วีรสตรีผู้มีความกล้าหาญ และผู้เป็นปูชนียบุคคลของเมืองนครราชสีมา ภายหลังจากที่เสร็จศึกสงครามที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ในปี พ.ศ. ๒๓๗๐ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ท้าวสุรนารีได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารต่อแพ เป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิฐานว่าหากแพรูปศาลานี้ ลอยไปติดยังสถานที่แห่งใดก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ในพระพุทธศาสนา ซึ่งแพก็ได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นบริเวณของวัดร้าง จึงได้สร้างเป็นวัดศาลาลอยขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ เมื่อท้าวสุรนารีถึงแก่อสัญกรรมในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๓๙๕ เจ้าพระยามหิศราธิบดีได้จัดการฌาปนกิจศพที่วัดศาลาลอย และได้ก่อเจดีย์ (สถูป) บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี ไว้บริเวณ ลานด้านหน้าอุโบสถ (หลังเก่า) วัดศาลาลอย สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ปัจจุบันมีพระเทพรัตนดิลก (วิจิตร จิตฺตทนฺโต) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) เป็นเจ้าอาวาส สิ่งที่น่าสนใจ อุโบสถหลังเก่าเป็นอุโบสถที่ท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ปัจจุบันอุโบสถหลังนี้เป็นอนุสรณ์ถึงท้าวสุรนารี ภายในอุโบสถ์มีพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่มีผู้คนเข้ามากราบไหว้สักการะขอพร อย่างไม่ขาดสาย
อุโบสถหลังใหม่ เป็นศิลปะไทยประยุกต์รูปสำเภาโต้คลื่น ภายในประดิษฐาน พระพุทธรูปประธานปูนปั้นสีขาวปางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นแบบของพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัดนคร พระนามว่า “พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอย พิมาลวรสันติสุขมุนินทร์” อุโบสถหลังนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ และรางวัลจากมูลนิธิเสถียรโกเศศ-นาคะประทีป โดยใช้วัสดุพื้นเมือง คือ กระเบื้องดินเผาด่านเกวียน นำมาประดับตกแต่งผนังด้านหน้าอุโบสถเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ผนังด้านหลังเป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ส่วนบานประตูเป็นโลหะลายนูน ภาพเล่าเรื่องเวชสันดรชาดก (๑๓ กัณฑ์) นอกจากนี้ด้านหน้าของอุโบสถมีศาลากลางสระน้ำ ภายในมีรูปปั้นคุณย่าโมนั่งพนมมือและยังเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีเอาไว้อีกด้วย สถูปบรรจุอัฐิท้าวสุรนารี เป็นสถูปขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี นับว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครราชสีมา และประชาชนทั่วไป นิยมมากราบไหว้ขอพร