แ ม่ หุ ง ข้ า ว ซ า ว น้ำ ซ้ำ ส า ม ค รั้ ง
ว า ง ห ม้ อ ตั้ ง บ น เ ต า เ ผ า ไ ม้ ถ่ า น
พ อ ข้ า ว เ ดื อ ด เ ริ่ ม ค น จ น แ ต ก บ า น
ใ ช้ ไ ม้ ฝ า น ขั ด ฝ า ค ร า เ ช็ ด น้ำ .
เช็ดน้ำ เป็นการหุงข้าวในสมัยก่อนที่มีกรรมวิธีพิถีพิถันหลายขั้นตอนไม่สะดวกสบายเหมือนสมัยปัจจุบันที่หุงข้าวด้วยหม้อไฟฟ้า หม้อหุงข้าวสมัยก่อนใช้มาแต่ดั้งเดิมนั้นเป็นหม้อดินเผา แต่ผู้เขียนไม่ทันได้เห็น จะคุ้นเคยกับหม้ออะลูมิเนียมก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามากกว่า
หากยังจำได้คนรุ่นนั้นจะหุงข้าวด้วยเตาถ่านหรือไม้ฟืน ควันจะลอยโขมงมองเห็นแต่ไกล เมื่อตวงข้าวด้วยกะลาตาเดียวหรือถ้วยเล็กๆ แล้วต้องนำข้าวไปล้างน้ำ โดยตักน้ำใส่หม้อพอท่วมข้าวใช้มือคนไปมาให้เศษผงที่ปะปนในข้าวสารนั้นหลุดลอยแล้วเทน้ำทิ้ง เรียกว่า "ซาวข้าว" ทำซ้ำ ๒ – ๓ ครั้ง เติมน้ำสะอาดพอท่วมข้าวประมาณ ๑ องคุลี โดยใช้ข้อปลายนิ้วกลางเป็นหน่วยวัด ก่อนนำหม้อข้าวไปตั้งบนเตาไฟ รอจนเดือด ใช้ทัพพีคนข้าวเป็นระยะเพื่อให้ข้าวสุกทั่วถึงกัน
เมื่อเมล็ดข้าวเริ่มแตก "แย้มบาน" แล้วยกลงจากเตาไฟ ใช้ "ไม้ขัดหม้อ" ขัดฝาหม้อโดยสอดปลายไม้ไปที่หูหม้อดันไม้จากด้านหนึ่งผ่านฝาหม้อไปขัดที่หูหม้ออีกข้างหนึ่ง แล้วเทน้ำข้าวทิ้ง เรียกว่า "เช็ดน้ำ" น้ำข้าวนี้บางครัวจะรินไว้รับประทานโดยโรยเกลือป่นใส่นิดหน่อย คนให้ทั่ว เป่าให้พออุ่นรับประทานได้ทันที รสชาติมันๆ เค็มปะแล่มๆ อีกทั้งยังเผื่อแผ่ไปถึงสุนัขได้อีกด้วย
ขั้นตอนสุดท้ายคือนำหม้อข้าวที่รินน้ำข้าวออกแล้วไปตั้งบนเตาไฟอีกครั้ง แต่ต้อง "ราไฟ" ก่อน คือการลดความร้อนจากฟืนลงพอประมาณ จะใช้ขี้เถ้ากลบในเตา หรือจะนำฟืนหรือถ่านออกจากเตาแล้วใช้ขี้เถ้ากลบ ใช้น้ำราดให้ดับก็ตามสะดวก เมื่อพร้อมแล้วเอียงหม้อหมุนไปมาบนเตาให้ข้าวในหม้อโดนความร้อนสุกโดยทั่วถึง เรียกว่า "ดงข้าว" ขั้นตอนนี้ข้าวสุกจะส่งกลิ่นหอมถึงก้นบึ้งใจเรียกน้ำย่อยมารอไว้ก่อนแล้ว
แม่บ้านบางคนจะเติมน้ำเย็นลงไปนิดหน่อยก่อนการเช็ดน้ำ เพื่อช่วยให้การรินน้ำข้าวสะดวกขึ้น เพราะน้ำข้าวจะไม่เหนียวข้นเกินไป
การหุงข้าวโดยวิธีเช็ดน้ำด้วยเตาถ่านนั้นก้นหม้อมักจะเป็นเขม่าดำ ล้างชัดทำความสะอาดยาก คนสมัยนั้นมีวิธีแก้ไขด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านคือการใช้ขี้เถ้าผสมน้ำพอเหนียวทาที่ก้นหม้อ เสมือนเป็นการเคลือบก้นเขม่าไฟรมโดยตรง เวลาทำความสะอาดจะชะล้างออกได้ง่าย
เตาถ่านนั้นบางครัวจะมีกะละมังเคลือบที่ตัดก้นออกวางครอบบนเตาไฟชั้นหนึ่งก่อน
น้ำซาวข้าวถ้านำไปรดต้นไม้จะทำให้เจริญเติบโตดีมาก โดยเฉพาะ มะลิ กุหลาบ ไม้ดอกยอดนิยม จะออกดอกสวยงาม บานสะพรั่ง
คนสมัยก่อนจะทำที่รองหม้อด้วยเชือกหรือหวายถักเป็นวงกลม ขนาดพอรองก้นหม้อร้อนๆ ได้ เรียกว่า "เสวียน"
ส่วน "ไม้ขัดหม้อ" หัวเรื่องของงานเขียนชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรุงแต่งรสชาติใดๆ ของข้าวแม้แต่น้อย แต่สำคัญมากในขั้นตอนการรินน้ำข้าว มิฉะนั้นขั้นตอนนี้จะทุลักทุเลมาก ข้าวอาจหกระหว่างเทน้ำข้าวได้ รวมถึงขั้นตอนการดงข้าวที่ยังต้องพึ่งไม้ขัดหม้ออยู่ แต่บางครัวก็ไม่ใช้
ที่สำคัญหากลูกคนไหนดื้อ ไม้ขัดหม้อ ก็เป็นไม้ขัดใจแม่ได้ด้วย ใครเคยโดน ไม้ขัดใจแม่ประทับรอยไว้ที่ก้น ที่ขา ที่ฝ่ามือบ้างยกมือขึ้น
[ไม้ขัดหม้อ ไม้ขัดใจแม่ ไม้ดัดนิสัย ไม้ขัดเกลานิสัยลูกๆ ก็คือไม้เรียวอันเดียวกันนั่นเอง]