ประเพณีเอากระดูกเข้าบัว
การเอากระดูกเข้าบัว หรือเอากระดูกขึ้นพนม เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวไทยพุทธที่แสดงออก
ซึ่งความกตัญญูและคารวะธรรม โดยนำของบุคคลซึ่งเป็นที่เคารพบูชาบรรจุไว้ใน “บัว” อันเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นสำหรับบรรจุอัฐิของผู้ล่วงลับผู้นั้นโดยเฉพาะ
เมื่อบุพการีถึงแก่กรรมและได้ประชุมเพลิงเรียบร้อยแล้ว ลูกหลานที่ใกล้ชิดจะเก็บอัฐิผ้าขาวเก็บไว้ที่บ้านหรือวัดจากนั้นลูกหลานที่จะพอมีฐานะและตระหนักว่าผู้ตายที่ได้เก็บอัฐิไว้นั้นเป็นผู้ที่ควรจะมีอนุสรณ์สถานเป็นการเฉพาะเพื่อบรรจุอัฐิให้ลูกหลานได้เคารพบูชาสืบไป ก็จะรวบรวมปัจจัยสร้าง “บัว” ขึ้นภายในวัด แต่บางทีสร้างไว้บริเวณบ้านก็มี แล้วกำหนดวันทำพิธีบรรจุอัฐิหรือที่ทางภาคใต้เรียกว่า “เอากระดูกเข้าบัว” ซึ่งส่วนมากนิยมเลือกจัดพิธีในหน้าแล้งในช่วงที่ว่างจากการงานเพราะรวมญาติมิตรได้ง่าย
ก่อนวันบรรจุอัฐิ ๑ วัน ลูกหลานจะเอาวันที่ที่เก็บไว้มาประพรมน้ำมนต์ จันทน์หอม ทาแป้งแล้วบรรจุโกศขนาดเล็ก ตกแต่งโกศอย่างเดียวกับโลงศพ ตกกลางคืนมีการสวดพระอภิธรรม แสดงพระธรรมเทศนาไปส่วนกุศลให้ผู้ตาย และอาจมีมหรสพให้ชมตลอดคืนด้วย วันรุ่งขึ้นจะมีการแห่โกศจากบ้านไปวัด (ในกรณีจัดงานตอนกลางคืนที่บ้าน) ทำบุญเลี้ยงพระเพลแล้วพระจะสวดมาติกาบังสกุล พอสวดเสร็จลูกหลานก็เคลื่อนย้ายโกศไปบรรจุไว้ในบัว ขณะที่บรรจุโกรธเข้าบัวนั้นพระจะสวดชยันโต จบแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี
ในบางท้องถิ่น การเอากระดูกเข้าบัว จะทำพร้อมกันปีละครั้ง เช่น ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสจะทำในช่วงเดือน ๖ ถึงเข้าพรรษา จัดเป็นงานใหญ่ คนในหมู่บ้านได้มีโอกาสมาพบปะกันหมดครั้งหนึ่ง
เป็นการเสริมสร้างสามัคคีธรรมได้อย่างดี
สำหรับอัฐิที่บรรจุบัวแล้ว ลูกหลานทั้งหมดจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายพร้อมกันปีละครั้ง เรียกการคิดส่วนกุศลนี้ว่า “บังสุกุลบัว” ในท้องถิ่นที่จัดพิธีเอากระดูกเข้าบัวพร้อมกันปีละคราว นิยมจัดพิธีบังสุกุลบัวพร้อมกับเอากระดูกเข้าบัว