สาระสำคัญ
ความเป็นมา (ภูมิหลัง/ความเชื่อ)
วัดท่าแพ สังกัด คณะสงฆ์ ธรรมยุต ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๓๓ ไร่ ๒๘ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดถนนสาธารณะ ทิศใต้ จดคลองสาธารณะ และทิศตะวันตก จดถนน
อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๕ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก, กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๘ หลัง เป็นอาคารไม้ ๘ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๓ หลัง และตึก ๗ หลัง, ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้มีหอระฆัง โรงครัว และกุฏิเจ้าอาวาส
ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๓๙ นิ้ว พระประธานประจำศาลาการเปรียญปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๓๐ นิ้ว
วัดท่าแพตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๑ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ดังสำเนาประกาศในราชกิจจานุเบกษา หน้า ๑๐๒๓ เล่มที่ ๓๔ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ
รูปที่ ๑ พระใบฎีกาเกลี้ยง
รูปที่ 2 พระครูอรรถธรรมรส
รูปที่ 3 พระครูสุรัตวิหารการ พ.ศ. ๒๔๙๒ – ๒๕๔๐
รูปที่ ๔ พระครูอนันต์จริยาภิวัฒน์
อดีตเจ้าอาวาวัดท่แพ
พระครูธรรมรถ (แข็บ)
พระครูสุรัตวิหารการ (เผียน จนฺทสาโร)
ประวัติโดยสังเขป
พระครูสุรัตวิหารการ นามเดิม เผียน วงศ์อรุณ เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๑ ณ ตำบล ท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๖๘ ณ วัดท่าโพธิ์ วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพระรัตนธัชมุณี (ม่วง) เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ วัดท่าโพธิ์ โดยมีพระรัตนธัชมุณี (แบน) ขณะดำรงสมณศักดิ์ ที่พระศรีธรรมประสาธน์ เป็นพระอุปัชฌาย์ สอบได้นักธรรมตรี พ.ศ. ๒๔๙๖ นักธรรมโท พ.ศ. ๒๔๗๕ สำนักเรียนวัดท่าโพธิ์ พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรีในพระราชทินนามที่ พระครูสุรัตวิหารการ พ.ศ. ๒๕๐๔ เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นในราชทินนาม พ.ศ. ๒๕๑๗ เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอกมราราชทินนามเดิม ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าแพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นเจ้าคณะตำบลปากพูน ธรรมยุต เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นเจ้าอาวาสที่สร้างความเจริญให้แก่วัดท่าแพอย่างถึงที่สุด
พระครูอนันต์จริยาภิวัฒน์ (อนันต์ น้ำขาว) เกิดเมื่อ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ อุปสมบทเมื่อ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีพระอุปัชฌาย์คือ พระครูสุรัตวิหารการ (เผียน) พระครูใบฎีกาประภาส อาภากโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดท่าแพถึงสองครั้ง
ประวัติหลวงปู่ทวด โดยสังเขป
เกิดเมื่อเดือน ๔ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๑๒๕ เมื่ออายุ ๑๕ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสีภูผ้า จนจบชั้นมูลจึงได้มาศึกษาต่อที่วัดสีมาเมือง จนอายุครบได้อุปสมบทได้อุปสมบทที่อุโบสถกลางน้ำ โดยท่าเรือ 4 ลำมาขนานกันเป็นอุทกสีมา (ปัจจุบันที่แห่งนี้คือวัดท่าแพ) โดยมีพระมหาปิยทัสสีเป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่าสามีราโม หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่กรุงศรีอยุธยาโดยอาศัยเรือสำเภาของชาวบ้านเดินทาง
ประวัติเจ้าอาวาส
ชื่อพระครูสุรัตน์วิหารการ (เมษา เขมธมฺโม) อายุ ๓๕ ปีพรรษา ๑๔ สถานะเดิมชื่อ เมษา นามสกุลรอดแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ ปีมะแม บิดา นายปัญญา มารดา นางกมลวรรณ นามสกุลรอดแก้ว บ้านเลขที่ ๓๓๓/๒๔ หมู่ ๑ ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
อุปสมบทวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๔ วัดท่าแพ ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระอุปัชฌาย์พระครูพิศาลวิหาร (บุญให้ ปทุโม)
พระกรรมวาจาจารย์พระครูอนันต์จริยาภิวัฒน์
พระอนุสาวนาจารย์พระครูวิเศษศีลคุณ
วิทยฐานะ
- พ.ศ. 2542 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนทุ่งสงอำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช
- พ.ศ. 2544 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี
- พ.ศ. 2547 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท
- พ.ศ. 2548 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกสังกัดวัดท่าแพสำนักเรียนคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช
- พ.ศ. 2550 สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา ปริญญาบัตร ศาสนศาสตรบัณฑิต คณะศาสนาและปรัชญาสาขาวิชาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
- การศึกษาพิเศษ ผ่านการอบรมหลักสูตรพระสังฆาธิการ
การปกครอง
พ.ศ. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๑ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดท่าแพ
พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าแพ
พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นเจ้าคณะตำบลปากพูนคณะธรรมยุต
พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นพระครูวินัยธรในฐานอนุกรมของ พระเทพวิทยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ธรรมยุต
พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ที่ราชทินนามพระครูสุรัตน์วิหารการ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมคีรี – อำเภอนบพิตำ แต่งตั้งโดยพระศรีธรรมประสาธน์เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ธรรมยุต