หลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีไซ เป็นเครื่องจักสานประเครื่องดักจับสัตว์น้ำที่มีความสำคัญ และมีคุณค่าต่อวิถีชีวิตของคนในในอดีต ทุกบ้านจะทำไซไว้ใช้เอง โดยจะนำไซไปดักไว้ตามคลองที่น้ำไหลผ่าน ซึ่งสถานที่ดักก็จะมีอยู่ทั่วไปตามไร่ตามนา ในฤดูฝนมีน้ำหลาก ชาวบ้านออกไปทำไร่ ทำนา ก็จะนำไซไปดักทิ้งไว้ด้วย ก็จะได้ปู ปลาต่าง ๆ มากมาย บางครั้งอาจยกไซไม่ได้เนื่องจากหนักเพราะดักปลาได้เกือบเต็มไซ ปลาที่ได้ก็จะนำไปประกอบอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว แบ่งปันให้เพื่อนบ้านบ้าง โดยไม่ต้องซื้อขายกัน ที่เหลือก็จะนำมาถนอมอาหารเช่น ทำปลาร้า ปลาเค็ม ปลาย่าง เก็บไว้กินยามฤดูแล้ง ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ที่สามารถหาปลากินได้อย่างเหลือเฟือ พระเกจิโบราณจึงนำไซมาทำเป็นเครื่องราง ให้ลูกศิษย์ไปแขวนไว้ตามหน้าร้านค้า ประตูบ้าน หรือใช้ผูกเสาเอกในพิธีลงเสาเอกบ้านเรือน เพื่อความเป็นสิริมงคล.. ช่วยดักเงินทอง ดักโชค ดักลาภ เรียกกันว่าไซดักทรัพย์ และพระเกจิอาจารย์ที่ทำไซแบบนี้ได้มีอานุภาพสูงสุดก็คงไม่มีใครเกินหลวงปู่เคน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตามาก วัตถุมงคลของท่านใช้แล้วร่ำรวยกันทั้งนั้น ใครๆ ในสมัยก่อนจึงไปกราบท่านเต็มวัดประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโนท่านเกิดเมื่อพ.ศ.๒๔๐๒ ที่ตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก (ในสมัยนั้นยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรี) ต่อมาได้มีภรรยาชื่อ นางลา ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านนางลา ณ หมู่บ้านนาปรือ ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งสองดำรงชีวิตคู่อยู่ได้ราวๆสิบปี โดยไม่มีลูก จนหลวงปู่เคนเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อตอนอายุราวๆ ๓๐ ปีเศษ จากนั้นได้ออกเดินธุดงค์และกลับมาจำพรรษาในถ้ำแถวตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่ถ้ำเขาอีโต้ ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ตราบจนมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๑๓ สิริอายุ ๑๑๑ ปีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาหลวงปู่เคน ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนทั่วไป แม้กระทั่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื้น นพวงศ์ ณ อยุธยา) ยังได้เสด็จมาสนทนาธรรมกับหลวงปู่เคน ณ วัดถ้ำเขาอีโต้ มีหลักฐานก็คือภาพถ่ายที่กุฏิหลวงพ่อเจ้าอาวาส ในสมัยหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านชอบฟังเทศน์โดยเฉพาะการเทศน์มหาชาติ ถ้าว่างท่านจะนั่งภาวนาอยู่ในถ้ำ เวลาออกไปไหนมาไหนท่านชอบใช้ย่ามสีแดง จนคนนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อย่ามแดง" หลวงปู่เคนท่านเป็นพระรุ่นเก่า เวลาพูดท่านก็ชอบใช้ภาษาโบราณ และมักจะเอ่ยวลีว่า “ หอสระอีแม่มึง ” เสมอ หลวงปู่เคนท่านออกเดินบิณฑบาตเป็นนิจแม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม และการบิณฑบาตของท่านนี่เองเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเล่าขานว่าหลวงปู่เคนเป็นพระผู้สำเร็จอภิญญาสามารถเดินหนย่นระยะทางได้ จนมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลมากราบขอพรและให้ท่านรดน้ำมนต์ให้มิได้ขาด ยิ่งไปกว่านั้นวัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไซดักทรัพย์ นกสาลิกาคู่ สีผึ้ง ผ้ายันต์ ฯลฯ ต่างก็เป็นที่ต้องการของผู้ที่มากราบท่าน เพราะเต็มไปด้วยอานุภาพทางเมตตามหานิยม ไปบูชาแล้วค้าขายดี มีประสบการณ์เล่าขานกันไม่จบสิ้น