ประวัติความเป็นมา
พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ หรือศีลมหาสนิท เป็นพิธีกรรมที่แสดงถึงการร่วมสนิทเป็น อันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเยซู มีการปฏิบัติครั้งแรกโดยพระเยซูคริสต์ในคืนวันที่จะถูกจับไปเป็นนักโทษเพื่อเข้าสู่การตรึงกางเขน ซึ่งมีบันทึกไว้โดยเปาโลอัครทูตในจดหมายที่เขียนฝากไปยังคริสตชนที่เมืองโครินธ์ ซึ่งอยู่ใน พันธสัญญาใหม่ ของพระคัมภีร์ไบเบิล ความว่า คือในคืนที่เขาอายัดพระเยซูเจ้านั้น พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ครั้นขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก แล้วตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา" เมื่อรับประทานแล้ว พระองค์จึงทรงหยิบถ้วยด้วยอาการอย่างเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือ พันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา” เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้ และดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
และทางนิกายโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์จะถือว่าเป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์มาก โดยจะรับประทานขนมปังและไวน์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความเชื่อแทนพระกายและพระโลหิตของพระเยซู (ทางศาสนจักรโรมันคาทอลิก และออร์ทอดอกซ์จะถือว่าขนมปังและไวน์ในทางอัศจรรย์จะกลายเป็น พระมังสาและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์) และเป็นพิธีกรรมที่สืบเนื่องมาจากพิธีปัสกาของศาสนายูดาห์)
ความสำคัญของพิธีมหาสนิท
๑.เป็นพันธสัญญาแห่งความภักดีต่อพระเยซูคริสต์ (มธ.๒๖:๒๑-๒๕) พระเยซูได้ประกาศว่า จะมีบางคนทรยศต่อพระองค์ ไม่ได้ภักดีต่อพระองค์อย่างแท้จริง พิธีมหาสนิทจึงเป็น พันธสัญญาแห่งความภักดีต่อพระองค์ เป็นพันธสัญญารักที่พระเจ้าทำกับเรา ฉะนั้น เราต้องมีใจภักดีและผูกพันกับพระองค์อย่างเหนียวแน่น เพื่อจะเข้าสู่ความสนิทสนม กับพระองค์ได้สนิทใจ
๒.เป็นการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตในความรักและผูกพันกับพระเยซูคริสต์ (มธ.๒๖:๒๑-๒๓) เหล่าสาวกถามพระเยซูว่า “ข้าพระองค์หรือจะทรยศพระองค์” อันทำให้เห็นหลักการก่อนเข้าสู่พิธีนี้ก็คือว่าเราต้องถามตัวเองว่า เราดำเนินชีวิตด้วยความรักและผูกพันกับพระเยซูคริสต์หรือไม่ ไม่ใช่แค่เพียงมาเข้าสู่พิธีนี้โดยไม่มีความหมายใดๆ ถ้าหากเราได้ดำเนินชีวิตผูกพัน รักพระองค์แล้ว หรือได้กลับใจใหม่ ตัดสินใจจะดำเนินชีวิตกับพระเจ้า เราก็พร้อมเข้าสู่พิธีนี้
๓.เป็นพระกรุณาของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเรา (ยน.๑๓:๒๑-๒๒) พระเยซูได้ร่วมพิธีนี้แม้กับคนที่ไม่รักภักดีต่อพระองค์ เราได้เห็นพระกรุณาของพระองค์และ การให้โอกาสของพระองค์ แม้เราขาดตกบกพร่อง เราจึงไม่ได้เข้ามาหาพระคุณพระเจ้าโดยความสมบูรณ์ในชีวิตแต่เข้ามาโดยรู้ว่า เรายังไม่พร้อม แต่พึ่งพาพระคุณพระเจ้า เราต้องสำรวจตัวเองเท่าที่เรากระทำได้ เราจึงต้องคาดหวังว่าเมื่อเราเข้าสู่พิธีนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเปิดตาให้เห็นชีวิตของเรา (ลก.๒๒:๒๙) พระเยซูได้หยิบขนมปังและส่งให้เหล่าสาวกนั้นหมายความว่า พิธีนี้พระองค์เป็นผู้เริ่มต้นและส่งพิธีนี้ด้วยตัวพระองค์เอง ผู้นำเป็นเพียงผู้ผ่านขนมปังและน้ำองุ่น ในพิธีนี้เท่านั้นไปสู่สมาชิก เราจึงมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าโดยตรง เราจึงควรรับขนมปังและน้ำองุ่นจากพระเยซูคริสต์โดยตรง เราไม่จำเป็นต้องทำพิธีนี้ให้เหมือนในสมัยแรกได้ในรายละเอียด พิธีนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของพิธีที่เป็นเปลือกนอก แต่เนื้อหาหลักเป็นการระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูที่ไถ่บาปเรา
จุดประสงค์ของพิธีมหาสนิท
ไม่ได้ทำเพื่อการยกโทษบาป ความจริงเราได้รับการยกโทษบาปแล้วที่กางเขน เราจึงมา ระลึกถึงพระเยซูในพิธีมหาสนิท ขนมปังและน้ำองุ่นเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่เล็งถึงพระกายที่ต้องรับความเจ็บ ปวดทุกข์ทรมาน และการหลั่งโลหิตของพระเยซู เมื่อเราระลึกถึงพระเยซูจึงจะมีความหมายศักดิ์สิทธิ์เพราะพระเจ้าได้แยกพิธี นี้ไว้สำหรับพระองค์ต่างหาก โดยมีพระเยซูเป็นศูนย์กลาง จุดประสงค์นั้นไม่เพียงแค่พระเยซูได้มีบัญชาให้เรามีพิธีนี้แต่ ๑คร.๑๑:๒๖ ได้เตือนใจเราให้ทำพิธีนี้จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาและแน่ใจว่าพระองค์จะเสด็จกลับมา นอกจากนี้พิธีนี้มีจุดประสงค์ให้เราประกาศการวายพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เจ้าเพื่อไถ่บาปของโลกนี้ อีกทั้งเป็นการเตือนพันธสัญญาแห่งความรักภักดีที่พระเจ้ามีต่อเราและเรามีต่อพระเจ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ใครเป็นผู้ควรจะรับพิธีนี้ได้ ?
สำหรับผู้ที่เชื่อทุกคนที่กลับใจบังเกิดใหม่ และเข้าใจความรักของพระเยซูทางไม้กางเขนอย่างแท้จริง ไม่ควรมีคริสเตียนคนใดให้พิธีนี้ผ่านไป บางคนอยากจะรอให้ชีวิตดีก่อนแล้วจึงเข้าสู่พิธีนี้ แต่ความจริงแล้วถ้าเราเข้ามาหาพระเจ้าด้วยใจสำนึกบาปและตั้งใจดำเนินชีวิตใหม่ก็ให้เราเข้าไประลึกถึงพระคุณพระเจ้าในพิธีนี้แล้วชีวิตเราจะดีพร้อมมากยิ่งขึ้น พิธีนี้เป็นพระพรและเตือนใจเราไม่ให้อยู่ในบาปอีกต่อไป พระเจ้าจะอวยพรเราไม่ใช่เพราะขนมปังและน้ำองุ่นศักดิ์สิทธิ์แต่พิธีนั้นศักดิ์สิทธิ์และมีพระเจ้าอยู่ที่นั่น คนที่รับถูกต้องก็จะได้พระพร
เราทำพิธีมหาสนิทได้อย่างไร ?
๑.ร่วมใจกัน พิธีมหาสนิทเป็นเวลาสุดยอดของการนมัสการและการสามัคคีธรรมร่วมกัน อย่างที่พระเยซูเสวยร่วมกับสาวกของพระองค์ (ลก.๒๒:๑๕) เราต้องร่วมใจกันเป็น อันหนึ่งอันเดียวกันกับพี่น้องและกับพระเจ้าเหมือนอย่างขนมปังก้อนเดียวที่ เรารับประทานด้วยกัน
๒.โดยความเชื่อ พิธีนี้จึงเป็นสัญญลักษณ์ฝ่ายวิญญาณ จะไม่มีความหมายเลยเมื่อเรากระทำเป็นศาสนพิธีเท่านั้น เราต้องเข้ามาด้วยการใคร่ครวญถึงไม้กางเขนอันเล็งถึงพระคุณพระเจ้าจริงๆ และเข้ามาด้วยการถวายตัวต่อพระเจ้าและรับพระพรผ่านทางพิธีนี้ (๑คร.๑๐:๑๖) ไม่เพียงเท่านั้นการเข้ามาสู่พิธีนี้จะนำมาซึ่งการปลดปล่อยจากความเจ็บไข้ได้ป่วยและพันธนาการอีกด้วย เพราะโดยรอยแผลที่ถูกเฆี่ยนของพระเยซูก็เป็นเหตุให้เราหายดี (๑ปต.๒:๒๔)
๓.บ่อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้พิธีนี้เป็นพิธีแห่งพระพร ยิ่งทำมากเท่าไรก็นำมาซึ่งพระพร มากเท่านั้น ในคริสตจักรสมัยแรก (กจ.๒:๔๖) เขาได้หักขนมปังทุกวันเรื่อยไปตามบ้านกลุ่มสามัคคีธรรมและตามพระวิหาร
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ
๑คร.๑๑:๒๖ “เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด ท่านก็ได้ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา”
พิธีศีลมหาสนิท
ตามพระวจนะของพระเจ้า ในพระธรรม ๑ โครินธ์ ๑๑:๒๓ - ๓๑ ตรัสว่า...
๒๓ เพราะว่าเรื่องซึ่งข้าพเจ้ามอบไว้กับพวกท่านนั้น ข้าพเจ้าได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือ ในคืนที่เขาทรยศพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ๒๔ เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหักและตรัสว่า นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา ๒๕ หลังจากรับประทานอาหารแล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วยด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา จงทำอย่างนี้ คือเมื่อใดที่พวกท่านดื่มจากถ้วยนี้จงดื่มเพื่อระลึกถึงเรา” ๒๖ เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปัง และดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา ๒๗ ฉะนั้น ถ้าใครกินขนมปังหรือดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่างไม่เหมาะสม เขาก็ทำผิดต่อพระกาย และพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ๒๘ ทุกคนจงสำรวจตัวเองแล้วจึงกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ๒๙ เพราะว่าคนที่กินและดื่ม โดยไม่ได้ตระหนักถึงพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็กินและดื่มเป็นเหตุให้ตนเอง ถูกลงโทษ ๓๐ เพราะเหตุนี้พวกท่านหลายคนจึงอ่อนแอและเจ็บป่วย และบ้างก็ล่วงหลับไป ๓๑ แต่ถ้าเราวินิจฉัยตัวเองเราคงไม่ต้องถูกพิพากษา
การเข้าร่วมพิธีศีลมหาสนิท ควรจะระลึกถึง ๓ ข้อ ดังนี้
ข้อ ๑.พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของตนเอง และระลึกถึงการวาย พระชนม์ของพระองค์เพื่อไถ่บาปของเรา
๑ โครินธ์ ๑๑ : ๒๓
๒๓ เพราะว่าเรื่องซึ่งข้าพเจ้ามอบไว้กับพวกท่านนั้นข้าพเจ้าได้รับจากองค์พระผู้ เป็นเจ้า คือในคืนที่เขาทรยศพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงหยิบขนมปัง ๒๔ เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหักและตรัสว่า นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา ๒๕ หลังจากรับประทานอาหารแล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วยด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา จงทำอย่างนี้ คือเมื่อใดที่พวกท่านดื่มจากถ้วยนี้จงดื่มเพื่อระลึกถึงเรา”
ข้อ ๒. คริสเตียนทุกคนเป็นพี่น้องกันและควรรักซึ่งกันและกันไม่ควรแตกแยก การสามัคคีธรรม
๑ โครินธ์ ๑๐ :๑๖ - ๑๗
๑๖ ถ้วยแห่งพร ซึ่งเราได้ขอพรนั้นทำให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของพระคริสต์ ไม่ใช่หรือ? ขนมปังซึ่งเราหักนั้นทำให้เรามีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? ๑๗ แม้เราเป็นบุคคลหลายคนแต่เนื่องจากมีขนมก้อนเดียวเราจึงเป็นร่างกายเดียวเพราะว่าเราทุกคนรับประทานขนมก้อนเดียวกัน
๑ โครินธ์ ๑๑ :๑๗ - ๒๒
๑๗ ในการกำชับต่อไปนี้ข้าพเจ้าชมพวกท่านไม่ได้ คือว่าการชุมนุมการของท่าน มักจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี ๑๘ ประการแรกข้าพเจ้าได้ยินว่าเมื่อมาชุมนุมกันในคริสตจักรพวกท่านมีการแตกแยกกันและข้าพเจ้าเชื่อว่าคงมีส่วนที่เป็นจริง ๑๙ เพราะจะต้องมีการขัดแย้งกันในพวกท่านเพื่อฝ่ายถูกในพวกท่านจะปรากฏ ๒๐ เมื่อท่านทั้งหลายมาชุมนุมพร้อมกันนั้น จึงไม่ใช่การกินในงานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า ๒๑ เพราะว่าในการกินอาหารนั้นแต่ละคนต่างกินอาหารของตนก่อน บ้างก็ยังหิวอยู่ และบ้างก็เมา ๒๒ อะไรกันนี่ พวกท่านไม่มีบ้านที่จะกินและดื่มหรือ? หรือว่าท่านดูหมิ่นคริสตจักรของพระเจ้าและสร้างความอับอายให้กับคนที่ขัดสน จะให้ข้าพเจ้าพูดอย่างไร? จะให้ชมพวกท่านหรือ? ข้าพเจ้า ไม่ขอชมท่านในเรื่องนี้เลย
ข้อ ๓ เราจะรับใช้พระเจ้าจนถึงพระเยซูจะเสด็จกลับมาและประกาศข่าวประเสริฐ
๑ โครินธ์ ๑๑:๒๖ เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ท่าน ก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
ผู้ที่เข้าร่วมในพิธีศีลมหาสนิทได้ จะต้องมี ๓ ข้อ ดังนี้คือ
ข้อ ๑. ผู้ที่ได้รับความรอดคือรับเชื่อพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
ข้อ ๒. ผู้ที่รับบัพติศมาและเป็นสมาชิกของคริสตจักรแห่งนี้ถ้าไม่เป็นสมาชิกของคริสตจักรแห่งนี้ แต่เป็นสมาชิกคริสตจักรอื่น ที่มีความเชื่อเดียวกัน คือสมาชิกของคริสตจักรแบ๊พติสต์อิสระถ้าคุณเป็นอย่างนั้นคุณเข้าร่วมในพิธีศีลมหาสนิทได้
ข้อ ๓ ผู้ที่ไม่มีความบาป
๑ โครินธ์ ๑๑:๒๗ ฉะนั้น ถ้าใครกินขนมปังหรือดื่มจากถ้วยของพระองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เหมาะสม เขาก็ทำผิดต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ๒๘ ทุกคนจงสำรวจตัวเองแล้วจงกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ๒๙ เพราะว่าคนที่กินและดื่มโดยไม่ได้ตระหนักถึงพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็กินและดื่มเป็นเหตุให้ตนเองถูกลงโทษ
ผู้ที่ยังไม่รับเชื่อพระเยซูผู้ที่ยังไม่รับบัพติศมา หรือคิดว่าตนเองไม่สมควรที่จะ รับกรุณาอย่ารับเมื่อคุณรับเชื่อและรับบัพติศ มาโอกาสหน้าคุณจะรับได้ ก่อนที่จะรับขนมปังและดื่มน้ำองุ่นขอให้เราพิจารณาตนเองเราจะอธิษฐานส่วนตัวสัก ๓ นาที และขอให้พิจารณาดูจิตใจของคุณถ้าคุณมีบาปขอให้สารภาพบาปต่อพระเจ้าและถ้าคุณทำผิดบาปต่อคริสตจักรหรือพี่น้องและอยากสารภาพบาปต่อหน้าประชุม ก่อนที่จะรับประทานขอให้สารภาพบาปด้วย
ต่อไปนี้เราจะรับขนมปังและน้ำองุ่น
มัทธิว ๒๖:๒๖ ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวก ตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา”
อธิษฐานข้าพระองค์ทั้งหลายขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักอันยิ่งใหญ่ ของพระองค์ ที่พระองค์ทรงโปรดประทานความรอดอันยิ่งใหญ่แก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่ออภัยโทษความบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย เวลานี้ข้าพระองค์ทั้งหลายจะรับประทานขนมปัง ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายระลึกถึงการเสียสละชีวิตของพระเยซู ซึ่งพระกายแตกหักบนไม้กางเขนและดำเนินชีวิตด้วยความขอบคุณ พระคุณพระองค์เสมอ อาเมน
มัทธิว ๒๖:๒๗ แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วยเมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขาตรัสว่าจงรับไปดื่มทุกคนเถิด ๒๘ เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา ที่หลั่งออกมาเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก ๒๙ เราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นนี้อีกต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น ที่เราจะดื่มกันใหม่กับพวกท่านในแผ่นดินแห่ง พระบิดาของเรา ๓๐ เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้วเขาทั้งหลาย ก็พากันไปที่ภูเขามะกอกเทศ
อธิษฐานข้าพระองค์ทั้งหลายขอขอบพระคุณพระองค์ที่พระเยซูคริสต์หลั่งพระโลหิต ของพระองค์เพื่อไถ่บาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย โดยพระโลหิตนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นพี่น้องกันในพระเยซูคริสต์ ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายรักและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ อาเมน
ขอขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ฉลองพิธีมหาสนิทขอขอบพระคุณพระองค์ที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและหลั่งพระโลหิต เพื่ออภัยโทษบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายได้รับความรอดโดยการเสียสละของพระเยซูคริสต์ ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายระลึกถึงความรักของพระองค์ และขอให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกคนได้ถ่อมใจลงต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะรับใช้พระองค์ด้วยใจ ขอพระองค์ทรงโปรดยกโทษความผิดบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และทรงช่วยสอนให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายรักและหนุนใจซึ่งกันและกันในการสร้างพระกายของพระคริสต์ ขอพระองค์โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายประกาศข่าวประเสริฐอย่างองอาจ จนถึงพระเยซูคริสต์เสด็จลงมา ขอขอบพระคุณพระองค์ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำและทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลาย ทูลขอ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
วัตถุประสงค์
๑ เพื่อให้ชาวคริสต์ระลึกถึงคุณของพระเป็นเจ้า
๑คร. ๑๑:๒๔เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก และตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา”ไม่ใช่แค่ระลึกว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ แต่ต้องระลึกถึง พระองค์ในฐานะทรงพระชนม์อยู่ด้วย
๒ เพื่อเป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาใหม่
ลก. ๒๒:๒๐เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยและทรงทำเหมือนกันตรัสว่า “ถ้วยนี้ที่เทออกเพื่อท่านทั้งหลาย เป็นพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา
๓ เพื่อเป็นการประกาศการวายพระชนม์ฯ
๑คร. ๑๑:๒๖เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
๔ เพื่อเป็นการประกาศการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์
๑คร. ๑๑:๒๖ เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา พิธีมหาสนิทจะทำต่อไปจนกว่าพระคริสต์เสด็จมา
๕ เพื่อทำให้เรามีส่วนในพระกายพระคริสต์
๑คร. ๑๐:๑๖ ถ้วยแห่งพร ซึ่งเราได้ขอพรนั้นทำให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของ พระคริสต์ไม่ใช่หรือ? ขนมปังซึ่งเราหักนั้นทำให้เรามีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์ ไม่ใช่หรือ
วัสดุ/อุปกรณ์
๑ ขนมปังไร้เชื้อ
ขนมปังในพิธีศีลมหาสนิทหมายถึงอะไร? ขนมปังเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความมีชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนมันก็เป็นอาหารพื้นฐานและบางทีก็เป็นอาหารเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้คนจำนวนมาก ขนมปังไร้เชื้อที่เราใช้ในพิธีศีลมหาสนิทกลายเป็นพระกายของพระเยซูเจ้าสำหรับเราในพิธีศีลมหาสนิทเราพบการประทับอยู่จริงของพระคริสตเจ้า จากนั้นเราบริโภคพระคริสต์เพื่อทำให้ตัวเรากลายเป็นพระวิหารของพระองค์ในโลกนี้
การใช้ขนมปังไร้เชื้อในพิธีมิสซามีความหมายที่ยิ่งใหญ่ ในท่ามกลางการกินปัสกาที่พระเยซูเจ้าทรงจัดเลี้ยงกับบรรดาศิษย์ ขนมปังไร้เชื้อคือสิ่งช่วยเตือนความจำเรื่องความเร่งรีบของประชาชนชาวยิวที่หลบหนีออกจากประเทศอียิปต์ในสมัยของโมเสส พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะรอให้ขนมปังฟูขึ้น เราใช้ขนมปังไร้เชื้อเพื่อเตือนว่าเราเองก็เป็นผู้เดินทาง เช่นกัน เรายังไปไม่ถึงอาณาจักรสวรรค์และยังต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างเต็มที่
๒ น้ำองุ่น
เหล้าองุ่นในพิธีศีลมหาสนิทหมายถึงอะไร? ในหลายๆ วัฒนธรรม เหล้าองุ่นเป็น เครื่องดื่มที่มีอยู่ปกติในมื้ออาหาร และในตะวันออกกลางที่พระเยซูเจ้าทรงเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายก็เช่นกัน เหล้าองุ่นเป็นเครื่องดื่มเพื่อความเบิกบานในการสังสรรค์ ในระหว่างพิธีศีลมหาสนิทเหล้าองุ่นจะได้รับการเสกและกลายเป็นพระโลหิตของพระเยซูเจ้าสำหรับเรา ในเหล้าองุ่นเราพบการประทับอยู่จริงของพระเยซูเจ้า และด้วยการบริโภคเหล้าองุ่นที่เสกแล้ว ทำให้เรามีส่วนร่วมการถวายยัญบูชาของพระองค์ด้วยความรักเพื่อประโยชน์ของชาวโลก บ่อยครั้งที่เลือดในพระคัมภีร์เป็นสัญลักษณ์ของการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์พระเยซูเจ้า ทรงมอบพระโลหิตของพระองค์เองให้เป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาใหม่ระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์
กระบวนการ/ขั้นตอน (ทำอย่างไร)
ขั้นตอนการเข้าพิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ หรือศีลมหาสนิท
๑ ผู้ที่จะเข้ารับพิธีศีลมหาสนิท จะต้องตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าจะเชื่อพระเจ้าเท่านั้น จึงจะเข้าพิธีนี้ได้
๒ ผู้นำจะกล่าวนำ ในการรับขนมปังไรเชื้อ ที่จัดเตรียมไว้ พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ครั้นขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก แล้วตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา"
๓ เมื่อรับประทานขนมปังเสร็จแล้ว จึงดื่มน้ำองุ่น พระองค์จึงทรงหยิบถ้วยด้วยอาการ อย่างเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา” เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศการ วายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
สถานที่ตั้งขององค์ความรู้
คริสตจักรแห่งนิมิตพิจิตร เลขที่ ๒๔/๔ ถนนนอกฝั่งสถานีรถไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
คุณค่าและบทบาทของวิถีชุมชนที่มีต่อองค์ความรู้เรื่องนี้
๑) คุณค่าขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
- เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของสมาชิกคริสเตียนทุกคน
- เป็นบ่อเกิดแห่งความสามัคคี การรักใคร่ ปรองดอง การช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน
- เป็นเครื่องดับความเร้าร้อนใจทำให้จิตสงบร่มเย็น
๒) บทบาทของชุมชนในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
สมาชิกคริสเตียนทุกคน จะต้องสร้างและขยายประชากรของพระองค์ โดยการออกไปประกาศข่าวประเสริฐ สร้างสาวก และการขยายอาณาจักรของพระเจ้า
การส่งเสริม สนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม
ได้รับการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ในการซ่อมแซมศาสนสถานที่ชำรุด
สถานภาพปัจจุบัน
สถานภาพปัจจุบันของการถ่ายทอดความรู้และปัจจัยคุกคาม
คริสตจักรแห่งนิมิตพิจิตร มีการถ่ายทอดความรู้
๑) มีการอบรมสั่งสอน ชี้แจง หรืออธิบายเหตุผลเรื่องราวทางศาสนา
๒) การเรียนและสอนพระคัมภีร์
๓) มีการฝึกปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ตั้งแต่อายุยังน้อย เล่าเหตุการณ์ หรืออ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์
ข้อเสนอแนะ
สำหรับผู้ที่มีความเชื่อในศาสนาอื่น ๆ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่คริสตจักร ได้ทุกศาสนสถาน
ข้อมูลอ้างอิงบุคคล
ชื่อ-นามสกุล นายเดชา วงคำ
ตำแหน่ง ประธานกลุ่มคริสเตียนโปรแตสแตนท์พิจิตร
ที่อยู่หน่วยงาน/องค์กร คริสตจักรแห่งนิมิตพิจิตร
ที่อยู่ บ้านเลขที่ ๒๔/๔ หมู่ที่ - ถนนนอกฝั่งสถานีรถไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร รหัสไปรษณีย์ ๖๖๐๐๐ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑- ๕๓๔๕๖๔๙
ข้อมูลอ้างอิงอื่นๆ
เว็บไซต์ : พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับมาตรฐาน ๒๐๑๑ สมาคมพระคริสตธรรมไทย
เว็บไซต์Webmaster ฮิต : ๑๓๒๒๖
ข้อมูลจาก : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ข้อมูลเจ้าของเรื่อง (ผู้สัมภาษณ์)
ชื่อ-นามสกุล นางกมลลักษณ์ บัวจับ
ตำแหน่ง นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
หน่วยงาน/องค์กร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร
ที่อยู่หน่วยงาน/องค์กร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร (หลังเดิม) ถนนบุษบา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรสำนักงาน ๐ ๕๖๖๑๒๖๗๕
ที่อยู่ บ้านเลขที่ ๑๔/๗๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร รหัสไปรษณีย์ ๖๖๐๐๐ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑ – ๘๗๔๒๘๑๑ E-mail fonpaoblex@gmail.com