อนุสาวรีย์พระยาสุนทร ธรรมธาดา (คำสิงห์) ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2545 สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2546

พระยาสุนทร ธรรมธาดา นามเดิม คำสิงห์ สิงหศิริ เป็นบุตรของพระพฤกษ์มนตรี และนางกองสี เกิดที่บ้านจอมนาง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เกิดเมื่อวันอังคาร ปีมะโรง เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2375 เมื่อ พ.ศ. 2380 ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ณ วัดจุมพล อำเภอโพนพิสัย จากนั้นในปี พ.ศ.2386 ได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายกองบัญชีอยู่กับเจ้าเมืองโพนพิสัย มีหน้าที่สำรวจไพร่พลและเตรียมเสบียงอาหารสมทบกองทัพหลวง เมื่อปีพ.ศ.2598 ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็น“ท้าวพรหมสาร” และเมื่อ พ.ศ. 2401 ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นเจ้าเมืองประชุมพนาลัย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระศรีสุระศักดิ์สุนทร”

พ.ศ.2436 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่กองไปขัดตาทัพต่อสู้ฝรั่งเศสที่แก่งเกซึ่งเข้ามายึดดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงจนเหตุการณ์ด้านนี้สงบลง และดินแดนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตกไปเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส รวมทั้งเมืองบริคัณฑ์นิคมด้วย จึงโปรดเกล้าฯให้พระศรีสุระศักดิ์สุนทร (คำสิงห์ สิงห์ศิริ) อพยพครอบครัวผู้คนมาตั้งบ้านอยู่บ้านหนองแก้ว ริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านตะวันตก แขวงเมืองโพนพิสัย และโปรดเกล้าให้ยกบ้านหนองแก้วขึ้นเป็น "เมืองรัตนวาปี" เมื่อ พ.ศ.2437 ส่วนพระยาศรีสุรศักดิ์สุนทร (คำสิงห์ สิงห์ศิริ) พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น พระรัตนเขตรักษา เจ้าเมืองรัตวาปี คนแรก

พ.ศ. 2440 พระราชทานตราตั้งให้ พระรัตนเขตรักษา (คำสิงห์ สิงห์ศิริ) เป็น พระยาโพนพิสัยสรเดช เจ้าเมืองโพนพิสัย ตามนามเมือง และยุบเมืองรัตนวาปีเป็นอำเภอสังกัดเมืองอุดรธานี ต่อมาทางราชการก็ยุบเมืองโพนพิสัยเป็นอำเภอ ขึ้นกับเมืองหนองคาย

พระยาโพนพิสัยสรเดช (คำสิงห์ สิงห์ศิริ) ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอโพนพิสัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 จนกระทั่ง ปี 2459 จึงออกจากราชการ เนื่องด้วยมีความดีความชอบต่อแผ่นดินมาแต่อดีต พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาสุนทรธรรมธาดา เป็นต้นตระกูล "สิงห์ศิริ" เป็นเกียรติยศต่อวงศ์ตระกูลสืบไป