ผ้าไหมลายพรหมพิมานเป็นอัตลักษณ์ของอำเภอจตุรพักตรพิมาน เป็นผ้าไหมลายโบราณ ที่กลุ่มสตรีทอไหมบ้านสวนมอญได้ร่วมกันคิดค้นขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๖ เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอจตุรพักตรพิมาน ซึ่งมีพื้นสีเขียว แสดงถึงความเป็นหมู่บ้านเขียวขจีมีความอุดมสมบูรณ์ หมู่บ้านส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของชาวอำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าไหมลายพรหมพิมาน ประกอบด้วยหมี่ต่างๆ ดังนี้
หมี่ลำหม่อนมีลักษณะลำตรง บ่งบอกถึงความซื่อสัตย์ ซื่อตรง สุจริต
หมี่ขอมีลักษณะเหมือนขอเกี่ยว บ่งบอกถึงความเชื่องโยงเป็นเครือข่าย ความสมัครสมาน สามัคคี ความเอื้ออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
หมี่ปราสาทมีลักษณะเป็นรูปพระพรหมสี่หน้า ซึ่งประกอบด้วย
หน้าที่ ๑ เมตตา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข
หน้าที่ ๒ กรุณา คือ ความปรารถราให้ผู้อื่นได้รับความสุข
หน้าที่ ๓ มุฑิตา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น
หน้าที่ ๔ อุเบกขา คือ การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม
หมี่ดอกแก้วมีลักษณะเหมือนลูกแก้วเปล่งประกายสดใส บ่งบอกถึงความรุ่งเรือง สว่างสดใส อุดมสมบูรณไปด้วยภูมิปัญญาของคนอำเภอจตุรพักตรพิมาน
หมี่โคมเก้า มีลักษณะเหมือนโคมไฟ หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอำเภอจตุรพักตรพิมาน หรือผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าผืนนี้
ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ผ้าไหมพื้นเรียบ ลายโบราณ สีไม่ตก ซักง่าย สวมใส่บ่อยๆ จะนิ่ม ไม่เป็นขุย ลวดลายชัดเจน
การดูแลผ้าไหมซักด้วยมือ โดยใช้น้ำยาซักแห้ง หรือแชมพูสระผม หรือสบู่ ไม่ควรแช่เกิน ๕ นาที ขยี้เบาๆ ล้างน้ำให้สะอาดแช่ด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม ตากในที่ร่ม มีลมโกรก ก่อนรีด ควรพรมน้ำเปล่า หรือน้ำยารีดผ้าเรียบ ใช้ไฟอ่อนพอประมาณ
ข้อแนะนำในการดูแลรักษา
๑. ไม่ควรซักด้วยผงซักฟอกชนิดแรง
๒. ไม่ควรแช่ค้างคืน
๓. ควรซักด้วยมือ
๔. ตากในที่ร่มลมโกรก
๕. รีดด้านในไม่ควรรีดด้านนอก