ลาบเทา เมนูอีสานรสเด็ดที่จัดว่าเข้าข่ายอาหารโบราณอีกชนิดหนึ่ง ที่อีกไม่นานคงจะลางเลือนไปตามกาลเวลาคงมีเพียงภาพและคำบรรยายเก็บไว้เป็นข้อมูลเท่านั้น จะมีวิธีทำอย่างไร มีดังนี้
ส่วนประกอบ
- เทา 1 ถ้วย
- ป่นปลา หรือป่นกบ
- บักแข้ง 1 ถ้วย (มะเขือพวง)
- มะเขือเปราะ 2-3 ลูก
- ข่าอ่อน 1 แง่ง
- ถั่วฝักยาว 2-3 ฝัก
- น้ำปลาร้าต้มสุก
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 3-4 หัว
- ต้นหอมผักชี 5-6 ต้น
ขั้นตอนและวิธีทำลาบเทา
- เอาเทามาล้างใส่ตะแกรงผ่านน้ำเปิดน้ำแรงๆจะได้สะอาดเก็บเศษดินเศษไม้ออกล้างสี่ห้าน้ำให้สะอาด แล้วปั้นเอาน้ำออกให้หมด จากนั้นนำไปสับเหมือนสับ
- หั่นข่าอ่อน,หั่นมะเขือบางๆ,ถั่วฝักยาวหั่นหรือซอยเล็กๆบางๆ
- ป่นปลา หรือป่นกบไว้เพื่อนำมาใส่ลาบเทา
- ผสมน้ำปลาร้าต้มสุกกับเทา แล้วใส่ป่นปลา หรือป่นกบใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นคนให้เข้ากันให้ได้รูปในลักษณะของเหลวหนืด
- ใส่ข่า,มะเขือเปราะ,บักแข้ง,ถั่วฝักยาว,ใส่ข้าวคั่ว,พริกป่น,หอมแดงซอย,ต้นหอมผักชีหั่นซอยบางๆแล้วก็คนให้เข้ากัน ใส่ผงนัวนิดหน่อย แล้วก็ชิมรสเบิ่ง แซ่บแล้วก็ตักใส่ถ้วยเลย
ทำความรู้จักเทา
เทา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งชื่อภาษาอังกฤษคือ Spirogyra (สไปโรไจรา) (คนอีสานเรียกว่า “เทา”) เป็นสาหร่ายที่ขึ้นในน้ำจืดที่สะอาด ทั้งน้ำนิ่งและไหลเอื่อยๆ มีสีเขียวเป็นเส้นกลมยาวขนาดเล็กพันกันเป็นเกลียวนิ่มลื่นมือพบได้ในแหล่งน้ำภาคเหนือและอีสาน นิยมนำมาบริโภคในรูปผักจิ้มน้ำพริก และทำลาบ
ประโยชน์ของเทานอกเหนือจากจะนำมาทำเป็นอาหารแล้ว ยังใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพ จากการวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย พบว่า สาหร่ายสีเขียวในนาข้าวบางชนิด สามารถตรึงไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนโตรเจนได้ อีกทั้งยังใช้ในทางอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า เครื่องสำอางที่ผสมสาหร่ายและสารสกัดจากสาหร่าย จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นและลดริ้วรอย ส่วนในประเทศไทย ก็ได้มีบริษัทหลายแห่งที่ใช้สาหร่ายเป็นเครื่องสำอางในรูปแบบของครีมบำรุงผิวนอกจากนี้ ในทางการแพทย์ ได้ทดลองใช้สาหร่ายในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคกระเพาะ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความไม่สมดุลในร่างกายอีกด้วย อีกถือเป็นพืชที่มีสรรพคุณอย่างมาก