ฟ้อนนางโยนเป็นฟ้อนโบราณของลับแล หรือการร่ายรำโบราณของลับแล ใช้ฟ้อนในงานสำคัญ เช่น งานรับเจ้านาย งานบุญสำคัญ เป็นฟ้อนที่ค้นพบในตระกูลของพระเมืองด้ง(จันทร์) และถูกส่งต่อเฉพาะในกลุ่มลูกหลานเครือญาติ
ฟ้อนนางโยน เป็นการแสดงที่ใช้รับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๕ คราวเสด็จประพาสมณฑลพายัพ ซึ่งขณะนั้น ได้เสด็จมาตั้งค่ายประทับแรม ณ ม่อนจำศีล อยู่ในเขตเมืองลับแลง ในครั้งนั้น ผู้ที่ฟ้อนนางโยนคือ แม่หม่อนแจ้น หลานสาวคนเดียวของพระเมืองด้งต่อมาได้สืบทอดมาสู่แม่หม่อนเสงี่ยม เครือฝั้น ช่างฟ้อนนางโยนผู้ซึ่งเป็นหลานของแม่หม่อนแจ้ง และเป็นผู้ให้ข้อมูลการฟ้อนนางโยนให้กับอาจารย์ดาบฟ้า ไชยลับแลง นักวิจัยชุมชนกลุ่มฟื้นฟูอัตลักษณ์ไท-ยวนลับแลง ซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยร่วมกับทันตแพทย์ภัทรภูมินทร์ ชัยชมพู และเขียนหนังสือเรื่อง ฟ้อนโบราณเมืองลับแลง
การแต่งกายของช่างฟ้อนนางโยน
ช่างฟ้อนนางโยนมักจะนุ่งซิ่นตีนจกลับแลงชักชายพก พบการนุ่งซิ่นซ้อนหรือซิ่นขาวไว้ภายใน เพื่อถนอมผ้าซิ่นที่สวมไว้ข้างนอก ซึ่งซิ่นซ้อนหรือซิ่นขาวนี้ ในภายหลังมีการนำเอาแถบผ้าลูกไม้มาประดับตรงชายซิ่นเพื่อความงดงาม อาจคาดเอวด้วยเข็มขัดเงิน นาก หรือ ทอง ห่มผ้าสว้าน(ผ้าสไบ) สีดำ สีขาว ผ้าสว้านเป็นผ้าฝ้ายทอมือหรือผ้าไหมที่ทอขึ้นเอง การใช้ผ้าทอสีพื้นสีอื่นที่ซื้อจากตลาด แพร ผ้าลูกไม้ ผ้าพิมพ์ลาย มาทำผ้าสว้านนั้นพบในราวสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เป็นต้นมา นอกจากนี้อาจสวมใส่เครื่องประดับ เช่น ปิ่น สร้อยตัว เข็มขัด ตุ้มหู กำไลตาม ให้งามพอตัว แม่หม่อนเสงี่ยม เครือฝั้น กล่าวว่า "กั๋บสำคัญ ต้องเคี้ยวหมาก เพราะปากจะได้งามๆ แดงๆ ฟันจะได้สวยๆ"
ทรงผมของช่างฟ้อนนางโยน
ทรงผมของหญิงสาวชาวไท-ยวนลับแลงที่ใช้ในการฟ้อนนางโยน พบการเกล้าผมสูง 2วิธี คือ การเกล้าแบบวิดว้องและการเกล้าหลักวัวหลักควาย
๑) การเกล้าแบบวิดว้อง การเกล้าแบบวิดว้องนั้นจะใช้มือรวบมัดเส้นผมเป็นช่อหมุนเป็นมุ่นมวย แล้วจึงจั๊กหรือวิดว้อง (ดึงปลายผมสอดลอดออกมาตรงกลางมวย ให้เป็นรูปคล้ายๆ กับบ่วง)
๒) การเกล้าหลักวัวหลักควาย การเกล้าหลักวัวหลักควายนั้น ต้องมีการอั่วผม คือนำเอาเส้นฝ้ายสีดำหรือปอยผมของตนเองที่เก็บถนอมรวบรวมจากการหลุดขณะหวีผมมามัดรวมกันแล้วซโลมด้วยน้ำมันแอ๊กสำหรับใส่ผม( หญิงสาวชาวล้านนาแต่โบราณเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยสาวไม่นิยมตัดผม) จากนั้นจึงนำไปผูกรวมกับผมจริงเพื่อเพิ่มปริมาณของผมให้ดูมากขึ้น แล้วจึงทำการหมุนเป็นมุ่นมวยวิดว้อง คล้ายกับวัวหรือควายที่เดินวนรอบไม้ที่ใช้เป็นหลักมัด ในยุคหลังไม่ค่อยพบลักษณะวิดว้องในการเกล้าหลักวัวหลักควาย
ปัจจุบันมีการฟื้นฟูการแสดงฟ้อนนางโยน โดยมีการฝึกซ้อมเพื่อใช้ในการแสดงต่างๆ เพื่อสืบทอดการแสดงฟ้อนโบราณของชาวลับแลไว้ไม่ให้สูญหายไป