วัดกระแจะ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีอายุกว่า 250 ปี อยู่ในพื้นที่ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี.
เดิมชื่อวัดกบแจะ เป็นพื้นที่ตั้งค่ายกบแจะ ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า ครั้งสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชฝ่าวงล้อมทัพพม่าออกมาจากกรุงศรี เพื่อรวบรวมไพร่พลกลับไปทวงคืนแผ่นดินนั้น เคยนำทัพหลวงมาพักที่ค่ายกบแจะ (วัดกระแจะในปัจจุบัน) เป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำใหญ่ แลอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และมีความมั่นคงในด้านความปลอดภัยเพราะมีด่านกบแจะคอยสอดส่งดูแล พระองค์จึงสั่งให้หยุดทัพ เพื่อฝึกฝนการรบ และเก็บเสบียงกรังข้าวสารอาหารแห้ง มีปลาเป็นอาทิ ฯลฯ ก่อนนำทัพไปตีเมืองจันทร์
หลักฐานทางประวัติศาตร์ กล่าวคือพระอุโบสถหลังเก่าที่สร้างด้วยดินดาลอายุกว่า 250 ปี และวิหารสัมฤทธิ์ที่เป็นงานฝีมือของสกุลช่างอยุธยา อายุกว่า 200 ปีเช่นกัน และมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2475 หลังการอภิวัฒน์ประเทศ
พระอุโบสถหลังเก่าของวัดกระแจะ ซึ่งก่อสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่ถูกคุ้งน้ำกัดเซาะจนเหลือเฉพาะกำแพง 4 ด้านและพระประธานในพระอุโบสถ โดยเหลือระยะห่างตลิ่งเพียงวาเศษปัจจุบันมีสภาพใกล้ทรุดตัวลงแม่น้ำปราจีนบุรี ทั้งนี้ พระอูโบสถหลังเก่า เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งทรงเคยใช้เป็นที่พักทัพหลังฝ่ากองทัพพม่า ก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองจันทบุรี
ปัจจุบันมีการสร้างท้าวเวสสุวรรณ และพญาปุริสาท เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธา และผุ้ที่เคารพนับถือได้กราบไหว้ ขอพร สำหรับการไหว้องค์ท้าวเวสสุวรรณแต่ละที่อาจจะมีการกราบไหว้ที่ไม่เหมือนกัน ในความเชื่อของตนดอกไม้สีแดงของมงคลสีแดงนำมาถวายเป็นเพียงส่วนหนึ่งสำคัญที่สุดคือใจ ใจที่มีแรงปรารถนาว่าเรานั้นเจอทุกข์อะไรอยู่แล้วเราอยากจะขอพรให้ท่านปลดทุกข์ให้เรา เวลาที่ไปไหว้ที่ไหนก็ตามดวงตาเราต้องมองกับดวงตาองค์ท้าวเวสสุวรรณเพื่อเป็นการขอพร แล้วระบุไปเลยว่าตอนนี้เราเดือดร้อนเรื่องอะไรอยู่ ขอให้ท่านช่วยเปิดทางให้ เสร็จแล้วตามความเชื่อก็จะไปจับที่กระบอง กระบองท่านมีไว้ทุบตีวิญญาณบาปทั้งหลาย ก็เหมือนเป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับเรานั่นเอง