ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 16° 25' 57"
16.4325000
ลองจิจูด (แวง) : E 103° 30' 22"
103.5061111
เลขที่ : 197943
หลวงพ่อองค์ดำชุ่มเย็น (พระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย)
เสนอโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ วันที่ 15 มิถุนายน 2566
อนุมัติโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ วันที่ 15 มิถุนายน 2566
จังหวัด : กาฬสินธุ์
0 944
รายละเอียด

เริ่มแรกนั้นในรัชกาลที่ 1 กวาดต้อนประชาชนชาวผู้ไทมาจากลาว ประเทศลาวมีบ่อคำแดงมากบริเวณสะหวันนะเขต มีคณะที่อพยพมาจากประเทศลาวไปอยู่ที่เมืองภูแล่นช้าง ซึ่งปัจจุบันคือตำบลนาขาม อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ และหนึ่งในคณะอพยพมีญาคูกิวซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ ได้นำทองแดงและทองคำที่ได้มาจากประเทศลาวเพื่อประกอบพิธีหล่อองค์พระพุทธรูปเมื่อ พ.ศ. 2353 โดยมีช่างจากล้านนาโบราณที่เชี่ยวชาญมาช่วยในการหล่อ แต่ว่าทองแดงไม่พอจึงกลับไปเอาทองแดงอีกครั้ง เมื่อหล่อองค์พระพุทธรูปเสร็จปรากฏว่าทองแดงที่ใช้เป็นส่วนประกอบของพระพุทธรูปนั้นทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิ-เดชั่นเกิดเป็นสนิมสีดำเกาะทั่วพระพุทธรูป เมื่อขัดสนิมออกแล้วก็จะเห็นสีของทองแดงแต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็กลับมาเป็นสีดำเช่นเดิม ชาวบ้านจึงเรียกพระพุทธรูปนี้ว่าหลวงพ่อองค์ดำ

ต่อมาได้มีการนำไปประดิษฐานที่วัดนาขาม โดยมีพุทธลักษณะเป็น ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ วัสดุทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตัก กว้าง 41 เซนติเมตร ฐานสูง 37 เซนติเมตร สูงจากฐานถึงยอดพระเมาลี 75 เซนติเมตร ที่ฐานมีจารึกอักษรลาวตัวธรรมสมัยหลวงพระบาง ความว่า 'สังกราช ราชาได้ฮ้อย ๗๒ ตัว ปีกด สะง้า เดือน ๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ วัน ๕ มื้อ ฮ่วงเหม่า นักขัตตะฤกษ์ อีกหน่อยซื่อว่า ปุสสยะ สังเฆ สะมะดี มีเจ้าครูนาขาม(กิว) เป็นเค้าเป็นเจ้าอธกศรัทธา ทายก อุปสก อุปาสิกา พ่ำพร้อม น้อมนำมายังตัมพะโลหาเป็นเอกศรัทธา สร้าง พระพุทธรูปองค์นี้ไว้ให้ได้เป็นที่ไหว้และบูชาแก่คนและเทวดา ตาบต่อเท่า ๕๐๐๐ วัสสา นิพพาน ปัจจโย โหติ นิจจัง ธุวัง ธุวัง'

ในสมัยพระยาชัยสุนทร(เก) องค์ที่ 11 ได้เดินทางไปตรวจราชการที่บ้านนาขาม แล้วได้พบเห็นหลวงพ่อองค์ดำที่วัดนาขาม เป็นพระที่มีลักษณะงดงาม จึงมีความต้องการที่จะนำไปประดิษฐานไว้ที่โฮงผู้ว่าฯ (จวนผู้ว่าฯ) เพื่อเป็นการเสริมบารมีแต่ชาวบ้านในละแวกนั้นไม่ต้องการให้นำหลวงพ่อองค์ดำไปจากหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านมีความเคารพนับถือและเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อองค์ดำ พระยาชัยสุนทร(เก)จึงได้นำช้าง 5 เชือก มาสร้างอำนาจในการขมขู่ ทำให้ชาวบ้านยอมถวายหลวงพ่อองค์ดำแก่พระยาชัยสุนทร(เก)ด้วยความไม่เต็มใจ เมื่อนำหลวงพ่อองค์ดำไปประดิษฐานที่โฮงผู้ว่าฯก็เกิดเหตุอาเพศ ได้แก่ พ่อตาเสียชีวิตด้วยโรคแปลกประหลาด เกิดการทะเลาะกันระหว่างนางสนมของพระองค์ ไฟไหม้โฮง แม่ยายเสียชีวิต และพระองค์ตกหลังช้างจนได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น ทำให้หลวงพ่อองค์ดำประดิษฐานที่โฮงผู้ว่าฯ ได้เพียง 1 ปีเศษ ต่อมาพระยาชัยสุนทร(เก)จึงได้นำไปถวายวัดกลางพระอารามหลวง ซึ่งในขณะนั้นญาคูอ้มเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ได้ไปจำพรรษาที่วัดเหนือและต่อมาได้จำพรรษาที่วัดกลาง จนถึงสมัยของพระครูสุขุมวาทวรคุณ(สุข สุขโณ) ท่านได้นำหลวงพ่อองค์ดำไว้ที่กุฎิเพื่อป้องกันการสูญหาย แต่ทว่าด้วยชื่อเสียงเรียงนามของหลวงพ่อองค์ดำทำให้ชาวบ้านอยากมาสักการะบูชา หลวงปู่สุขจึงได้นำหลวงพ่อองค์ดำไปแห่รอบๆเมืองเพื่อขอฝน และเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวเมืองกาฬสินธุ์ ทันใดนั้นก็เกิดอภินิหารฝนตกลงมา ทำให้ชาวบ้านเรียกหลวงพ่อองค์ดำอีกนามหนึ่งว่าหลวงพ่อชุ่มเย็น

จากนั้นก็มีปาฏิหาริย์ต่างๆเกิดขึ้นอีก ยกตัวอย่างเช่น คนที่แต่งงานแล้วไม่มีลูกก็มาขอลูกกับหลวงพ่อองค์ดำก็จะสมหวังและยังมีชาวต่างชาติอย่างมาเลเซียและสวีเดนมากราบไหว้สักการะกันอีกด้วย เมื่อเกิดภัยแล้งชาวบ้านจะนำเอาหลวงพ่อองค์ดำมาแห่เพื่อขอฝน เมื่อนำหลวงพ่อองค์ดำพ้นเขตวัดก็เกิดท้องฟ้ามืดครึ้มและฝนตก เมื่อนำไปแห่ครั้งไหนก็เกิดฝนตก จึงเป็นประเพณีวันสงกรานต์ที่จะนำหลวงพ่อองค์ดำมาแห่ เวลาที่พระเทพปัญญาเมธี(ปราชญ์ อกฺกโชโต) เจ้าอาวาสวัดกลางพระอารามหลวง เดินทางไปที่ใดก็จะนำเหรียญหลวงพ่อองค์ดำใส่ย่ามไปด้วยไม่ว่าจะไปงานบวชหรืองานต่างๆก็จะเกิดสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน เมื่อมีการพุทธาภิเษกสิ่งของมงคลทางวัดจะนำหลวงพ่อองค์ดำไปเป็นองค์พระประธานและจะเกิดฝนตกทุกครั้ง และอภินิหารล่าสุดที่เกิดกับพระเทพปัญญาเมธีในขณะที่ท่านกำลังเดินทางไปจังหวัดสกลนคร ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำสภาพรถพังยับเยินจนผู้ที่พบเห็นคิดว่าท่านได้มรณภาพแล้ว แต่กลับรอดมาได้และบาดเจ็บเพียงนิดหน่อยเท่านั้นนับเป็นปาฏิหาริย์ที่หลวงพ่อองค์ดำได้ช่วยชีวิตของเจ้าอาวาสและผู้ร่วมเดินทางไว้

ในสมัยที่พระครูสุขุมวาทวรคุณ (สุข สุขโณ) เป็นเจ้าอาวาส กรมศิลปากรอยากนำหลวงพ่อองค์ดำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจึงมาสร้างกำแพงโบสถ์แต่หลวงปู่สุขไม่ยินยอม เพราะหลวงพ่อองค์ดำเป็นพระของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์จะยกให้ใครไม่ได้ และเมื่อถึงประเพณีสงกรานต์ ก็จะได้มีการอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำมาแห่รอบเมืองเพื่อขอความชุ่มเย็น แต่หลวงปู่สุขท่านกลัวว่าหากเอาองค์จริงมาแห่อาจจะทำให้ไม่ปลอดภัยและอาจโดนขโมยได้ ท่านจึงหล่อองค์จำลองขึ้นมาแห่แทนในปี พ.ศ.2537, 2539, 2544 แต่เวลาทำพิธีพุทธาภิเษกก็ต้องเอาสายสิญจน์โยงไปที่หลวงพ่อองค์ดำองค์จริง เมื่อนานเข้าชาวบ้านเริ่มรู้แล้วว่าองค์ที่เอามาแห่ไม่ใช่องค์จริงแต่เป็นองค์จำลอง หลวงปู่สุขจึงสร้างกุฏิขึ้นมาเพื่อประดิษฐานองค์จริงไว้ข้างในเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้และได้ตั้งชื่อหลวงพ่อองค์ดำอีกชื่อว่าพระพุทธสัมฤทธิ์นิโรคันตราย

ในสมัยที่ท่านสุวิทย์ สุบงกฎเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านสุวิทย์ได้ทำการสถาปนาให้หลวงพ่อองค์ดำเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มคำขวัญจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าไปหนึ่งวรรคคือ “หลวงพ่อองค์ดำลือเลื่อง” เหตุที่เพิ่มเข้ามาเพราะอยากให้เมืองกาฬสินธุ์เป็นเมืองพุทธ

หมวดหมู่
ศิลปวัตถุ
สถานที่ตั้ง
วัดกลาง กาฬสินธุ์
เลขที่ 253 หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน โสมพะมิตร
ตำบล กาฬสินธุ์ อำเภอ เมืองกาฬสินธุ์ จังหวัด กาฬสินธุ์
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
บุคคลอ้างอิง สุรเกียรติ ศรีคล้าย อีเมล์ m.culture.ks@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
ตำบล กาฬสินธุ์ อำเภอ เมืองกาฬสินธุ์ จังหวัด กาฬสินธุ์
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่