นางวิชิต คำดี ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำข้าวเกรียบงา สำหรับนำมายำข้าวเกรียบ และเมี่ยงคำ และนำมาชุบน้ำรับประทานเล่น ฯ ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อในชุมชนหัวเดียด กรรมวิธีการผลิตข้าวเกรียบงาดำจังหวัดตาก เป็นผลิตผลของกลุ่มสตรีบ้านหัวเดียด ที่ยังคงรักษาคุณภาพความอร่อยของข้าวเกรียบงาดำที่เคยขึ้นชื่อของจังหวัดตาก ให้คงอยู่โดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลโตนดแท้ เนื้อมะพร้าวสด งาดำ แป้งข้าวเจ้า ผลผลิตที่ได้บรรจุหีบห่อรูปแบบต่างๆ การทำข้าวเกรียบงาดำ มีขั้นตอนดังนี้ นำปลายข้าวเจ้าหักล้างน้ำให้สะอาดแช่น้ำเป็นเวลานาน 1 ชั่วโมง นำมาโม่โดยใช้เครื่องโม่ไฟฟ้า มีอัตราส่วนของน้ำต่อปลายข้าวประมาณ 1.5 ต่อ 1 คิดเป็นปริมาณน้ำร้อยละ 63 และปริมาณแป้งร้อยละ 37 ของน้ำหนักน้ำแป้ง นำน้ำแป้งผสมเกลือป่นและงาดำเทลงบนผ้านึ่งประมาณ 15 วินาที ผึ่งแดดประมาณ 1/2 ชั่วโมงหรือจนกระทั่งแผ่นแป้งข้าวเกรียบแห้ง การใช้แป้งแห้งผสมแป้งดัดแปรทดแทนการใช้แป้งสดในการทำข้าวเกรียบงาดำ สูตรที่ได้รับการยอมรับ คือ แป้งข้าวเจ้าตราช้างสามเศียร 26.8 เปอร์เซ็นต์, แป้งดัดแปร (Elastigel 3000M EDG 020) 6.7 เปอร์เซ็นต์ น้ำสะอาด 57 เปอร์เซ็นต์ เกลือป่น 0.45 เปอร์เซ็นต์ และงาดำสุก 9.05 เปอร์เซ็นต์ จากผลการวิเคราะห์มีค่าความเหนียว และความสามารถในการยืดที่วัดจากเครื่องวัดเนื้อสัมผัสมีค่า 74.98 กรัม และ 18.26 มิลลิเมตรตามลำดับ มากกว่าแผ่นแป้งข้าวเกรียบงาดำทั่วไปที่มีค่า 45.83 กรัม และ 13.26 มิลลิเมตรตามลำดับ การวิเคราะห์ค่าสีพบว่า ค่าความสว่าง (L*) ค่าสีแดง (a*) และค่าสีเหลือง (b*) เท่ากับ 75.47, 0.36 และ 5.16 ตามลำดับ การพัฒนาข้าวเกรียบงาดำเสริมสมุนไพร พบว่า ปริมาณสมุนไพรเสริมในผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบที่ได้รับการยอมรับคือ ชาเขียวร้อยละ 10, กระชายดำร้อยละ 20 และขมิ้นชันร้อยละ 15 ของน้ำหนักแป้งแห้ง โดยผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบงาดำเสริมสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด มีผลการทดสอบทางด้านประสาทสัมผัสอยู่ในช่วงเฉยๆ ถึงชอบปานกลางและปริมาณสารอาหารของข้าวเกรียบงาดำเสริมสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ให้พลังงานอยู่ในช่วง 579.91 ถึง 584.35 กิโลแคลอรี่ โปรตีน, คาร์โบไฮเดรท, ไขมัน, ใยอาหาร, แคลเซียมและวิตามินเอ อยู่ในช่วง 13.96-14.30 กรัม, 94.24-94.99 กรัม, 14.92-15.05 กรัม, 8.35-8.56 กรัม, 61.74-66.74 มิลลิกรัม และ 0.6-5.44 RE ตามลำดับต่อแผ่นข้าวเกรียบสมุนไพร 100 กรัม หรือประมาณ 10 แผ่น