วัดพงษาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดในชุมชนที่ประชาชน ร่วมกันทำกิจกรรมทางศาสนา ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๒ ไร่ เป็นวัดเก่าแก่ วัดหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อสาย ยะสาธาโต เจ้าอาวาสวัดชำป่างาม ได้กล่าวถึง พระอธิการสิทธิ์อดีตเจ้าอาวาสวัดพงษารามว่า เป็นพระกรรมมวาจาจารย์ของหลวงพ่อคง สุวรรณะ ซึ่งท่านได้บวชเป็นพระภิษุในราว พ.ศ. ๒๓๓๙ จากประวัติตรงนี้ น่าจะสันนิษฐานได้ว่า วัดพงษารามน่าจะก่อตั้งขึ้นในราวต้นกรุง รัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบันมีอายุยาวนานกว่า ๑๕๐ ปี มีหลวงพ่องามเป็นพระประธานในพระอุโบสถซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยหน้าตักกว้าง ๓ ศอก ส่วนสูง ๓ ศอก มีพุทธลักษณะงดงามมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่กล่าวขาน เมื่อครั้งที่เจ้านายจากเมืองหลวงได้มาสำรวจป่าและมาแวะพักที่วัดพงษารามได้เห็นพระประธานองค์นี้แต่ในขณะนั้นยังไม่มีชื่อเรียกจึงได้ตั้งตามรูปลักษณะว่า “หลวงพ่องาม” นับตั้งแต่นั้นต้นไป พระอธิการจันทร์เป็นเจ้าอาวาสวัดองค์แรก ได้มีการเริ่มก่อสร้าง กุฎิสงฆ์และพระอุโบสถขึ้น ระยะแรกก็มีกุฎิสงฆ์อยู่เพียง ๒-๓ หลัง พอเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสงฆ์ได้เท่านั้น มาถึงสมัยของพระอธิการสิทธิ์ เป็น เจ้าอาวาสองค์ต่อมา การบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ กุฎิสงฆ์ หอสวดมนต์และหอฉันท์ ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง และกุฎิสงฆ์เพิ่มเติมขึ้นอึกในระยะที่พระอธิการบุญรอดได้เป็นเจ้าอาวาสลำดับที่ ๕ หลังจากนั้น ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์กันเรื่อยมา จนกระทั่งพระอธิการสุวรรณดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้สร้างกุฎสงฆ์ขึ้นอีก ๒ หลังสร้างหอสวดมนต์ขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม
ต่อมาวัดพงษารามได้เป็นที่กล่าวขานและปรากฏเด่นชัด เมื่อสมัยหลวงจุ้ย อินทรโชติ เป็นเจ้าอาวาส การก่อสร้างถาวรวัตถุได้เกิดขึ้นหลายสิ่งหลายอย่างเป็นต้นว่าโรงเรียนพระปริยัติธรรมอันเป็นสำนักศาสนศึกษา สำหรับพระภิกษุและสามเณร และฆราวาสทั่ว ๆ ไป โรงเรียนประชาบาลแยกออกไปต่างหากแทนการเรียนอยู่กับ ศาลาวัดที่มีมาแต่ดั้งเดิม เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้ประจำวัดอยู่ทุกวันนี้ได้รับการถวายเป็นสมบัติของวัดจากการทอดกฐิน ของโรงเลื่อยจักรยงวัฒนา ปัจจุบัน พระครูปัญญาสารธรรม เป็นเจ้าอาวาส