การเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยาโดยเริ่มมีการเวียนเทียนครั้งแรกในปีพ.ศ. ๒๕๕๐ หลังจากได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูป (หลวงพ่อศิลา) มาประดิษฐาน ณ วัดติโลกอาราม กลางกว๊านพะเยา ซึ่งจะทำในวันเพ็ญเดือน ๓ เดือน ๖ และเดือน ๘ ซึ่งตรงกับมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา จะมีพิธีเวียนเทียนกลางน้ำในยามใกล้ค่ำ ชาวบ้านต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียน ล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์หลวงพ่อศิลากลางน้ำ ๓ รอบ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จังหวัดพะเยา ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยา ส่วนราชการ และภาคเอกชน จัดงานศิลปวัฒนธรรมล้านนา และงานบวงสรวงพ่อขุนงำเมือง อย่างยิ่งใหญ่ในรอบ ๓๒ ปีของจังหวัด โดยงานดังกล่าวจะผนวกด้วยกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา คือ วันมาฆบูชา ซึ่งจะมีการเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้บรรจุการเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยา แห่งเดียวในโลกไว้ใน “๑๒ เดือน ๗ ดาว ๙ ตะวัน มหัศจรรย์เมืองไทย ไม่ไปไม่รู้” สำหรับในปีนี้ ได้กำหนดจัดรูปแบบการเวียนเทียนไว้อย่างสวยงามด้วยแสง-สี กลางน้ำ เพื่อให้เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ของชาวพะเยา โดยจะนำเรือประมงพื้นบ้านในกว๊านพะเยาประมาณ ๓๒๘ ลำ มาร่วมขบวนเวียนเทียน ซึ่งจะมีเรือพายขนาดใหญ่บรรทุกผู้โดยสารได้ ๒๐ คน จำนวน ๒๒ ลำ คอยบริการนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา และพิธีตักบาตรข้าวเหนียวพระสงฆ์จำนวน ๙๙ รูป บริเวณริมกว๊านพะเยา เริ่มตั้งแต่หน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ไปจนถึงวัดติโลกอาราม โดยการตักบาตรข้าวเหนียวดังกล่าวจะไม่มีการใส่อาหารลงในบาตร ซึ่งข้าวเหนียวเท่านั้น เชิญชวนให้ประชาชนในเขตเทศบาลนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ที่ประสงค์ใส่บาตร โดยผู้ใส่บาตรจะนั่งอยู่ในเสื่อ ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อเกิดบรรยากาศที่เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยว เนื่องจากสภาพธรรมชาติของกว๊านพะเยา จะเป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสการใส่บาตรท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ และมีพระสงฆ์เดินรับบาตรเป็นแถวยาวเกือบร้อยรูป