อาชีพปั้นหม้อของชาวบ้านแถบคลองสระบัว เป็นอาชีพเก่าแก่ที่มีหลักฐานความเป็นมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทำกันเป็นล่ำเป็นสัน สมัยนั้นเรียกย่านถิ่นนี้ว่า "บ้านหม้อ" เพราะเป็นแหล่งสำคัญการทำหม้อดินเผา และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นคลองสระบัวเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น หม้อที่ยังคงปั้นมีอยู่ ๕ ชนิด คือ หม้อต้น หม้อกลาง หม้อจอก หม้อหู และหม้อกา โดยสามอย่างแรกเป็นหม้อลักษณะกลมก้นมนมีฝาปิด (แบบหม้อต้มยา) ส่วนหม้อหู คือ หม้อแกงมีหู และหม้อกาคือกาต้มน้ำที่นิยมทำขายคือ หม้อกลาง และหม้อจอก เฉพาะขนาดพอเหมาะใช้สำหรับหุงต้ม
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการปั้นหม้อดินเผา
- ดินที่นำมาใช้ปั้นหม้อ คือดินเหนียวที่หาได้ตามท้องนา- ทราย ที่ใช้เป็นทรายละเอียดตามแม่น้ำ ใช้เป็นส่วนผสมในระหว่างการย่ำดินกับทรายให้เข้ากัน
- กระบะหรืออ่าง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการย่ำหมักดิน บางบ้านใช้วิธีขุดดินลงไปเป็นแอ่งสี่เหลี่ยมหรือกลมรีลึกพอประมาณ
- น้ำ ที่ใช้เป็นน้ำจากลำคลองสระบัว ใช้เป็นตัวประสานระหว่างดินกับทรายให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- แป้นหมุน เครื่องมือชนิดนี้เดิมใช้แรงงานคน เรียกว่า "แระ" มาระยะหลังใช้มอเตอร์สายพานแทน
- ไม้ตี
- ลูกหิน
- หินขัด
- สีดินเหลือง
ขั้นตอนการทำ
๑. โดยขั้นตอนแรกนำดินที่เป็นก้อนมาแช่น้ำหมักไว้ราว ๑-๒ วัน แล้วนำดินที่ได้มาใส่กระบะที่เตรียมไว้พร้อมกับผสม ดิน ๒ ส่วน ทราย ๑ ส่วน และน่ำพอประมาณ
๒. เริ่มการย่ำดิน ย่ำจนมั่นใจว่าเข้ากันเป็นเนื้อเดียวอย่างพอดี จึงตักดินขึ้นมาห่อไว้ด้วยผ้าชุบน้ำ
๓. ปั้นหม้อ ตักดินมาวางบนแป้นหมุน โดยกะประมาณว่าจะปั้นหม้อครั้งละจำนวนเท่าใด ดินที่่ถูกตักขึ้นมาโปะบนแป้นจะได้รับการจัดแต่งลักษณะพอกเป็นเนิน เปิดสวิตซ์ ใช้ผ้าชุบน้ำคอยหล่อลื่นใช้มือกดลงตรงกลางจนได้ขนาดความหนาและความสูงตามต้องการ จากนั้นนำผ้าชุบน้ำ "รีหม้อ"ให้ได้ส่วนโค้งเว้า เมื่อพอใจแล้วจึงใช้ด้ายตัดดินตรงฐานหม้อ ถือเป็นการปั้นหม้อเสร็จหนึ่งใบ
๔. ทาสีหม้อ นำหม้อที่ผ่านการตบแต่งแล้วไปทาสี โดยใช้ผ้าชุบโคลนสีเหลือง หรือที่เรียกว่า "ดินเหลือง" ตากไว้ ๑ คืน
๕. เผาหม้อดิน ชาวบ้านคลองสระบัว ยังคงใช้วิธีการเผ้าหม้อดินแบบโบราณ เรียกว่า "เผาเตาสุม"โดยเตาเผาจะได้รับการก่อขึ้นเป็นทรงสูงเหนือพื้นดิน ส่วนด้านล่างของเตาจะขุดลึกลงไปให้ลึกพอประมาณ เพื่อใส่ฟืนกระถินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงพื้นบ้าน การเผาจะใช้เวลาชั่วข้ามคืนแล้วจึงเปิดเตาในช่วงเช้า ก็จะได้หม้อดินเผาของบ้านคลองสระบัว
โดย...วัฒนธรรมอำเภอพระนครศรีอยุธยา
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา